ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่บ้านหัวหนอง ต.หนองแวง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ติดตามการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีผลิต 2566/67 ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อดูแลและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกแบบครบวงจร 

โดยปัจจุบัน ธ.ก.ส. ได้จ่ายสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2566/67 ราว 303 ล้านบาท, สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2566/67 กว่า 877 ล้านบาท คาดว่าจะพยุงราคาข้าวได้กว่าร้อยละ 30 ของผลผลิตข้าวนาปี 66/67 ทั้งหมด และจะเห็นราคาปรับดีขึ้นในอีก 5 เดือนนับจากนี้

ฉัตรชัย ย้ำว่า จะมีผู้ได้ประโยชน์กว่า 1 ล้านราย ประกอบด้วย เกษตรกร 4 แสนราย และสมาชิกสหกรณ์การเกษตรอีก 6 แสนราย มีวงเงินสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกปีการผลิต 2566/67 เพื่อเสริมสภาพคล่อง-เติมทุนหมุนเวียนเกษตรกรระหว่างชะลอขายข้าวในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและราคาตก ราว 34,437 ล้านบาท กำหนดชำระคืนภายใน 5 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย (รัฐบาลรับภาระจ่ายแทน) จะดูดซับข้าวเปลือกจากท้องตลาด 3 ล้านตัน  

ส่วนสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2566/67 เพื่อสนับสนุนสหกรณ์การเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก และเกษตรกรทั่วไปได้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1% ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลรับภาระแทน มีเป้าหมายรวบรวมปริมาณข้าวเปลือก 1 ล้านตัน ระยะเวลาจ่ายสินเชื่อตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ก.ย. 67