วันนี้ (29 ธันวาคม 2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบให้ นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 วันที่ 2 ของช่วงควบคุมเข้มข้น (28 ธันวาคม 2567) โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมการแถลงข่าว

นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินการรณรงค์ป้องกันการเกิดอุบัติตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างววันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 5 มกราคม 2568 ภายใต้ชื่อ “ขับขี่ปลอดภัยเมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน จากข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2567 พบว่า

- เกิดอุบัติเหตุ 269 ครั้ง ลดลง 31.20% เมื่อเทียบกับวันที่ 2 ของช่วงการควบคุมเข้มข้นช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสันนิษฐานว่า เกิดจากขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 103 ครั้ง ทัศนวิสัยไม่ดี 58 ครั้ง ตัดหน้ากระชั้นชิด 52 ครั้ง และดื่มแล้วขับ 46 ครั้ง

- ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 234 คัน รถพิกอัป/กระบะ 14 คัน และรถเก๋ง 8 คัน

- ส่วนผู้เสียชีวิตมีจำนวน 38 ราย ลดลง 11.63% เมื่อเทียบกับวันที่ 2 ของช่วงการควบคุมเข้มข้นช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ผู้เสียชีวิตมีมูลเหตุสันนิษฐานมาจากขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 22 ราย

- โดยมีพฤติกรรมเสี่ยงที่สำคัญคือการขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย 16 ราย

- ประเภทรถที่ทำให้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 26 ราย รถพิกอัป/กระบะ 2 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่ 25 ราย ผู้โดยสาร 8 ราย คนเดินถนน 5 ราย สำหรับผู้บาดเจ็บมีจำนวน 257 คน ลดลง 36.54% เมื่อเทียบกับวันที่ 2 ของช่วงการควบคุมเข้มข้นช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

- จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเชียงราย จังหวัดละ 13 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ จังหวัดพังงา และหนองบัวลำภู จังหวัดละ 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด คือ จังหวัดเชียงราย 13 คน ทั้งนี้ ได้มีการตั้งด่านชุมชน (ข้อมูล ณ เวลา 06.00 น.) จำนวน 6,888 ด่าน โดยมีมาตรการป้องปรามและลดพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ การดื่มแล้วขับ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย ความปลอดภัยของยานพาหนะ และการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ

ในโอกาสนี้ ได้มีข้อสั่งการในการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ดังนี้

1) บูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน เพื่อเพิ่มมาตรการตรวจสอบความพร้อมของคนขับรถโดยสารสาธารณะ และยานพาหนะในทุกจุดที่มีการรับ - ส่งประชาชน กรณีเกิดอุบัติเหตุให้ตรวจสอบย้อนกลับพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ เช่น ขับรถมาเป็นเวลาต่อเนื่องกี่ชั่วโมง พักรถ ณ จุดบริการที่ใดหรือไม่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ หรือยาที่ออกฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม เพื่อใช้เป็นข้อมูลในเชิงป้องกันที่สาเหตุ

2) ให้จังหวัด อำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพิ่มความตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานประจำจัดตั้งจุดบริการประชาชน โดยพิจารณาเลือกพื้นที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางช่องทางจราจร มีระยะห่างจากขอบทาง ควรจัดให้มีเครื่องหมาย กรวย หรือป้ายแสดงให้เห็นจุดบริการ และไม่แนะนำให้ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงผู้รับบริการออกไปยืนนอกจุดบริการ หรือบริเวณใกล้ถนน เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ปฏิบัติงานและประชาชนผู้รับบริการ

3) ให้ผู้นำชุมชน/หมู่บ้าน เพิ่มความเข้มข้น “ด่านชุมชน” “ด่านครอบครัว” เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปราม และตักเตือนผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงไม่ให้ออกจากพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน อาทิ ดื่มแล้วขับ การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รถจักรยานยนต์ที่มีสภาพไม่ปลอดภัย การขับขี่ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น และการตรวจความพร้อมสภาพร่างกายของผู้ขับขี่

4) ให้จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี และระนอง ประชาสัมพันธ์ผู้เดินทางสัญจรเดินทางด้วยความระมัดระวัง คาดการณ์ว่าในวันที่ 29 ธันวาคม 2567 จะมีสถานการณ์ฝนเพิ่ม และอาจมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ มีอากาศเย็นโดยเฉพาะบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว เปิดไฟตัดหมอก หลีกเลี่ยงการแซง และถนนเสี่ยง

5) เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2567 มีประชาชนเดินทางทางถนนออกจากกรุงเทพฯ กว่า 2,000,000 เที่ยว และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างทางจำนวนหนึ่ง สาเหตุหลักของอุบัติเหตุเกิดจากการใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนขับรถด้วยความเร็วไม่เกินที่กำหนด และเคารพกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยของท่านและเพื่อนร่วมทาง