ไม่พบผลการค้นหา
อย. เผยผลวิเคราะห์ไส้กรอกเชื่อมโยงเด็กป่วย พบสารไนเทรต/กรดเบนโซอิก ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในไส้กรอก พบการใช้ไนไทรต์เกินมาตรฐานที่กำหนด ไส้กรอกทั้งหมดมาจากสถานที่ผลิตที่ไม่ได้ขออนุญาตผลิตจาก อย. ฉลากไม่มีเลข อย. ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดี

ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีพบเด็กป่วยด้วยภาวะเมธฮีโมโกลบิน จำนวน 14 รายใน 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เพชรบุรี สระบุรี ตรัง พะเยา สงขลา นครศรีธรรมราช และกาญจนบุรี โดยทั้งหมดกินไส้กรอกไม่มียี่ห้อ รายละเอียดฉลากไม่ครบถ้วน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ได้ดำเนินการสืบหาสถานที่ผลิตไส้กรอก และเก็บตัวอย่างไส้กรอกทั่วประเทศทั้งสถานที่ผลิตและสถานที่จำหน่าย จำนวน 102 ตัวอย่าง ได้รับผลวิเคราะห์มาแล้ว 44 ตัวอย่าง ตกมาตรฐาน 22 ตัวอย่าง นอกจากนี้ยังพบมีการใช้เนื้อไก่แต่แสดงฉลากลวงให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าเป็นเนื้อหมูอีก 1 ตัวอย่าง และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 

ทั้งนี้ กฎหมายกำหนดให้ใช้ไนไทรต์เป็นสารกันเสียได้ไม่เกิน 80 มิลลิกรัม/กิโลกรัมอาหาร ส่วนไนเทรต และกรดเบนโซอิก ไม่อนุญาตให้ใช้ในไส้กรอก หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และหากตรวจพบในปริมาณที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ จัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รองเลขาธิการฯ แนะนำการเลือกซื้อไส้กรอก ผู้บริโภคควรเลือกซื้อไส้กรอกที่มีฉลากแสดง เลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. มีชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต หรือหมดอายุ หรือควรบริโภคก่อน ส่วนประกอบและข้อมูลวัตถุเจือปนอาหาร น้ำหนักสุทธิ ซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งน่าเชื่อถือ ส่วนผู้ผลิตต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ขออนุญาตผลิตให้ถูกต้อง ควบคุมการผลิตให้เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐาน GMP และแสดงฉลากตามที่กฎหมายกำหนด