โกลบอลไทมส์ สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่งรายงานอ้างว่า ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตชาวจีนจำนวน 25 ล้านรวมลงชื่อผ่านแคมเปญรณรงค์ทางออนไลน์ เรียกร้องให้อนามัยโลก (WHO) เปิดการสอบสวนห้องแล็บในสถานีวิจัยโรคติดเชื้อของกองทัพสหรัฐฯที่ฐานทัพ Fort Detrick เพื่อค้นหาต้นต่อของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เหมือนดังเช่นที่อนามัยโลกเคยเข้ามาสอบสวนสถาบันวิจัยไวรัสวิทยาในอู่ฮั่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
รายงานของโกลบอลไทมส์ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากชาวเน็ตจีนให้โพสต์คำร้องบนโซเชียลมีเดีย โดยมีเนื้อให้เรียกร้องการเปิดสอบสวนภายในแล็บของกองทัพที่ฐาน Fort Detrick ในรัฐแมรี่แลนด์ เพื่อหาต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสและความปลอดภัยข้องแล็บดังกล่าว คำร้องของชาวเน็ตจีนยังระบุอีกว่า Biolab ของ Fort Detrick เป็นสถานที่จัดเก็บเชื้อไวรัสอันตรายไว้หลายชนิดซึ่งสื่อจีนอ้างว่ามีบันทึการรั่วไหลเมื่อปี 2019 ก่อนเกิดเหตุการณ์ระบาดใหญ่
สำหรับเว็บไซต์ที่ชาวจีนลงชื่อยื่นคำร้องนั้น เป็นไมโครเว็บที่โกลบอลไทมส์สร้างขึ้นสำหรับการรณรงค์แคมเปญนี้โดยเฉพาะ
นับตั้งแต่เปิดเว็บไซต์ดังกล่าวมีชาวจีนร่วมลงชื่อไม่น้อยกว่า 5 แสนรายชื่อในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง จากนั้นเพิ่มเป็น 1 ล้านรายชื่อ ใน 48 ชั่วโมง โดยสื่อจีนยังอ้างด้วยว่า เพียงไม่นานหลังเปิดเว็บรณรงค์ ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์อย่างหนักจาก IP Address ที่อยู่ในสหรัฐฯ หลายแห่ง
ภายในเว็บไซต์คำร้อง ชาวเน็ตจีนบางส่วนได้แสดงความเห็นโดยกล่าวว่า "รัฐบาลสหรัฐฯต้องเปิด biolab เพื่อการสอบสวนโดยผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้เป็นคนของรัฐบาลสหรัฐฯ" ขณะที่ชาวเน็ตรายอื่นระบุว่า “การสอบสวนอย่างละเอียดใน Fort Detrick ถือเป็นความรับผิดชอบต่อชีวิตของมวลมนุษยชาติ”
จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า "สหรัฐฯ ยังคงติดค้างชาวจีนที่ต้องอธิบายว่า เหตุใดห้องปฏิบัติการ Fort Detrick ยังคงปิดเงียบไม่มีการเปิดสอบสวน และเหตุใดจึงต้องเกิดการโจมตีทางไซเบอร์เว็บไซต์คำร้องดังกล่าวซึ่งพบต้นทางของการโจมตีเป็นที่อยู่ IP จากสหรัฐฯ จำนวนมาก"
ทั้งนี้ สื่อของรัฐบาลจีนยังได้อ้างว่า ทราบจากแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า วอชิงตันมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเปิดดำเนินการสอบสวนต้นต่อของโควิดในจีนอีกครั้ง แม้ว่าเชื่อว่าจะไม่พบหลักฐานสาระสำคัญก็ตาม และหากการสอบสวนที่นำโดยสหรัฐฯ จบลงโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น สหรัฐฯยังคงสามารถประกาศได้ว่า "ความล้มเหลวในการค้นหาว่าไวรัสมาจากไหนนั้นเกิดจากการที่จีนปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูลและให้ความร่วมมือสอบสวนอย่างเปิดเผย" ดังนั้นจีนจึงต้องรับผิดชอบใน "ความทุกข์ของโลก" ยิ่งจีนต่อต้านมากเท่าไร สหรัฐฯก็ยิ่งมีเหตุผลมากขึ้นที่จะต้องรวมตัวกับชาติพันธมิตรเพื่อกดดันจีนให้มากยิ่งขึ้น