วันที่ 7 พ.ค. ที่หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า บริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ตรวจดูความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสำหรับการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ณ บริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยระบุว่า เขตบางกะปิ ถือเป็นเขตที่เราให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามากที่สุด หรือจำนวนกว่า 52,000 คน จึงกังวลว่าประชาชนจะสับสนว่า จะต้องเดินไปลงคะแนนในหน่วยการเลือกตั้งจุดไหน และด้วยการเลือกตั้งครั้งนี้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จึงต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบร่วมด้วยว่า จะต้องนำบัตรเลือกตั้งใส่ซองปิดก่อนจะยื่นให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยการเลือกตั้งลงลายมือชื่อ
ส่วนสำหรับเรื่องสภาพอากาศที่ร้อนจัดนั้น อาจจะทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่รู้สึกเหนื่อยล้า จึงวางแผนว่าจะติดต่อรถที่พ่นฝอยละอองน้ำมาพ่นให้ในแต่ละจุด อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่าหากเดินทางมาในช่วงเช้าก็จะทำให้ไม่รู้สึกร้อนมากนัก ดีกว่ามาแออัดกันในตอนเที่ยง แต่ถึงกระนั้นเราก็มีหน่วยปฐมพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว ดังนั้นขอแนะนำให้ประชาชนทยอยกันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญกับอนาคตของประเทศในระบอบประชาธิปไตยอย่างยิ่ง และอย่าให้ใครเอาสิทธิของเราไปใช้
ขณะที่หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า บริเวณรอยัลพารากอนฮอลล์ชั้น 5 รอบนี้มีประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าประมาณ 40,000 คน แต่ด้วยสถานที่สามารถจุคนได้มากและมีเครื่องปรับอากาศ จึงไม่น่ากังวลอะไร แต่ให้เผื่อเวลาการเดินทางไว้ด้วย
ชัชชาติ กล่าวอีกว่า ทางกรุงเทพมหานครก็ได้ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ไว้คอยตรวจและติดตามบัตรเลือกตั้งในแต่ละเขตเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง กกต.ก็ได้เปิดระบบอนุญาตให้ประชาชนเข้าถึงได้แล้ว ดังนั้นหากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นทาง กกต.ก็จะนำบัตรเลือกตั้งมาเก็บไว้ในที่เดียวกัน จึงขอความร่วมมือให้ช่วยกันดูเรื่องความโปร่งใสด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนโดยไม่มีข้อกังขา แต่สำหรับระบบเอไอยังอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ยืนยันว่าได้จัดเตรียมระบบไว้แล้ว เพื่อช่วยให้รายงานผลรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในเรื่องของป้ายหาเสียงที่กีดขวางทาง ชัชชาติ ย้ำว่าได้สั่งการให้เทศกิจไปดูแลแล้ว ดังนั้นหากกีดขวางก็จะให้นำออก แต่ที่ผ่านมายืนยันว่ายังไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราพยายามไม่ให้เป็นประเด็นทางการเมือง หรือ สร้างความขัดแย้ง