ไม่พบผลการค้นหา
​เมียนมาประท้วงเดือดติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เรียกร้อง 'หยุดบุกจับผู้เห็นต่างยามค่ำคืน' ด้าน UN ชี้ขณะนี้มีประชาชนถูกจับกุมไปแล้วราว 350 คน พร้อมเรียกร้องนานาชาติคว่ำบาตรคณะรัฐประหาร ยืนยันกองทัพต้องปล่อยตัวอองซาน ซูจี โดยเร็วที่สุด

ประชาชนในเมียนมาเดินหน้าลงถนนประท้วงต่อต้านรัฐประหารด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ นายพลอองซาน บิดาของอองซาน ซูจี ผู้ซึ่งเป็นสเมือนบิดาแห่งเอกราชและวีรบุรุษของเมียนมา ซึ่งตรงกับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2458 โดยการประท้วงในวันนี้เกิดขึ้นทั้งในพื้นที่ของนครย่างกุ้ง กรุงเนปิดอว์ ไปจนถึงมัณฑะเลย์ และอีกมากมาย โดยประชาชนออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบุกเข้าจับกุมประชาชนผู้เห็นต่างที่บ้านพักยามค่ำคืน

คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเปิดเผยว่าขณะนี้มีจำนวนประชาชนที่ถูกจับกุมตัวไปแล้วมากกว่า 350 คน โดยมีทั้งประชาชน นักกิจกรรม เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ไปจนถึงพระสงฆ์ ขณะที่องค์กรเอกชนช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ AAPP ระบุ ตั้งแต่การก่อรัฐประหารในวันที่ 1 ก.พ. ประชาชนชาวเมียนมาผู้ต่อต้านกองทัพถูกจับไปแล้วอย่างน้อย 320 คน 

หลักฐานของการที่กองทัพเมียนมาใช้กระสุนจริงในการปราบผู้ชุมนุม ประกอบกับการที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเมียนมาราว 300 คนได้ยื่นจดหมายถึงสหประชาชาติเพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงตั้งแต่การก่อรัฐประหาร ส่งผลให้ทางคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติออกมาเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้ประเทศสมาชิกเดินหน้ามาตรการคว่ำบาตร และยุติการให้ความช่วยเหลือใดๆ กับคณะรัฐประหารเมียนมา พร้อมทั้งยืนยันให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัว อองซาน ซูจี โดยเร็วที่สุด

แม้ทางคณะรัฐประหารซึ่งขณะนี้เรียกตัวเองว่า คณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐ จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปีเต็มหลังการยึดอำนาจในวันที่ 1 ก.พ. พร้อมทั้งมีการประกาศเคอร์ฟิวยามค่ำคืนระหว่างเวลา 20.00 น. - 06.00 น. ภายใต้กฎอัยการศึก แต่ประชาชนจำนวนหลายแสนคนต่างก็พากันออกมาประท้วงการทำรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง โดยภาพคลิปวิดีโอของการจับกุมประชาชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบุคคลากรทางการแพทย์ที่แสดงการต่อต้านรัฐประหารด้วยวิธี อารยะขัดขืน ดูเหมือนจะเป็นชนวนที่ผลักดันให้ชาวเมียนมายิ่งลุกฮือออกมาประท้วงมากยิ่งขึ้น

นอกจากประชาชนทุกภาคส่วนแล้ว ในการประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา โลกได้เห็นปรากฏการณ์ที่บรรดาเจ้าหน้าที่ภาครัฐในหลายหน่วยงานของเมียนมาที่ตัดสินใจ "เลือกข้าง" มาร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนการต่อต้านคณะรัฐประหาร ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงเนปิดอว์ ไปจนถึงในอีกหลายเมืองทั่วเมียนมา มีการประท้วงด้วยการติดริบบิ้นสีแดงอันเป็นสีประจำพรรค NLD สัญลักษณ์ของการแสดงอารยะขัดขืน และยังมีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับมือกับผู้ประท้วง ก่อนจะยอมเปิดทางให้ผู้ชุมนุมเดินขบวนต่อไป รวมถึงคลิปวิดีโอของตำรวจที่เปลี่ยนฝั่งไปอยู่ข้างผู้ชุมนุมพร้อมใช้โล่ของตำรวจกำบังน้ำที่ฉีดใส่ประชาชนอีกด้วย