ไม่พบผลการค้นหา
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลงานตำรวจภาค 5 จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ได้ของกลางไอซ์ 500 กก. ล่าสุดยึดทรัพย์เครือข่ายเพิ่มที่กรุงเทพฯ ได้อีกกว่า 20 ล้านบาท

ที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้ากน้าที่ ปปส.ภาค 5 ตัวแทน มทบ.33 และรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาไอซ์รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 10 คน รถยนต์ของกลาง 6 คัน ยาไอซ์น้ำหนักรวม 500 กิโลกรัมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ล่าสุดศาลได้อนุมัติออกหมายจับหัวหน้าเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนี้แล้ว คือ นายอาสนะ แก้วอดิษฐ์ หรือ เอ็ม พระประแดง เป็นชาวจังหวัดสมุทรปราการ และนายพงศธร สหมหมงคล

สืบเนื่องมาจากวานนี้ (4 พ.ย.) ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บุกเข้าจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ได้ที่บริเวณโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง เลขที่ 262/22 บ้านพระนอน ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู้ใกล้กับทัณฑสถานหญิงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้เฝ้าติดตามและสามารถจับกุมได้ที่อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง แล้วสอบสวนขยายผลจนทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดขบวนการใหญ่ขึ้นมาที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อที่จะส่งมอบยาเสพติด ซึ่งเชื่อว่าเป็นยาไอซ์จำนวนมาก จึงได้จัดชุดกำลังเข้าติดตามจนกระทั่งทราบว่าได้มาอาศัยโรงแรมม่านรูดดังกล่าวซึ่งอยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพี่มาดักซุ่มรอจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดพร้อมของกลางทั้งหมด ที่คาดว่าเป็นยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงใบชาน้ำหนักรวมประมาณ 500 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ท้ายรถเก๋ง เบื้องต้นมีผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับจ้างขนยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งจะขนครั้งละ 500 กิโลกรัม โดยมารับยาเสพติดที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งแรกนำไปส่งที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งที่สองนำไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ ปปส .ได้ทำการขยายผล ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดรายนี้ที่กรุงเทพ ซึ่งหลายคนประกอบอาชีพต่างๆ บังหน้า และมีพฤติกรรมรับจ้างค้า และขนลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนไทย ทางภาคเหนือ เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ 3 จากข้อมูลของ ปปส.ภาค 5 เผยว่า ตลาดใหญ่ของยาไอซ์ที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้เพิ่มมากขึ้นมากกว่ายาบ้า เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด ในประเทศไต้หวัน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่กว่าร้อยละ 90 ของยาไอซ์ ปลายทางจะมุ่งไปยังประเทศเหล่านี้ ส่วนในประเทศมีไม่ถึงร้อยละ 10 ที่เป็นกลุ่มเสพยาไอซ์