วันที่ 23 เม.ย. 2566 ที่โรงเรียนฝางชนูปถัมภ์ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แกนนำพรรคเพื่อชาติ นำโดย ยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ จัดเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเป็นครั้งแรก โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมฟังปราศรัยนับหมื่นคน ส่วนมากเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายช่วงวัย ตลอดการปราศรัยมีการแปลเนื้อหาปราศรัยจากภาษาไทยเป็นภาษาลาหู่ด้วย
โดย ยงยุทธ เปิดเผยว่า รู้สึกประหลาดใจที่พรรคเพื่อชาติมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากในพื้นที่นี้ เห็นได้จากการที่ประชาชนเดินทางมาเข้าร่วมฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก จึงต้องการให้เวทีนี้สร้างกำลังใจแก่พรรคการเมืองขนาดเล็กทุกพรรค เนื่องจากว่าที่ผ่านมา พรรคขนาดเล็กอาจจะไม่ได้รับโอกาสหรือพื้นที่ในการสื่อสารนโยบายดีๆ แก่ประชาชนมากเท่าที่ควร
เมื่อถามถึงความมั่นใจในการแข่งขันกับแชมป์เก่าประจำพื้นที่อย่างพรรคเพื่อไทย ยงยุทธ กล่าวว่าพรรคเพื่อชาติ มองว่า วันนี้สิ่งที่ควรทำ คือ เคารพและฟังเสียงประชาชน พรรคเพื่อชาติจึงไม่ได้คำนึงว่าจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ หรือว่าจะชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ใดบ้าง หรือว่าในพื้นที่ที่ลงมาพบปะพี่น้องประชาชนวันนี้จะได้คะแนนเสียงมากเท่าไหร่ แต่จะขอฟังเสียงและมติของประชาชนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาค่าไฟแพงที่กำลังเป็นปัญหาสำหรับประชาชนทุกวันนี้ ยงยุทธ มองว่า วันนี้ไม่ต้องเรียกร้องอะไร แค่ต้องไม่เลือก 3 ป. ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดกลับมา แม้ว่า 3 ป. พยายามกล่าวโทษว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลก่อนหน้า จึงขอถามกลับว่า คุณอยู่มา 8 ปีทำไมไม่คิดจะแก้ไขปัญหา วันนี้มีแต่คำพูดที่ปัดภาระไปจากตัว
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เหมือนนายกฯ ไก่ 3 อย่าง คือ พูดอย่าง คิดอย่าง ทำอย่าง ซึ่งเรื่องนี้สามารถแก้ง่ายๆ ด้วยการไปศึกษาแนวทางของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามได้แบบไม่ต้องใช้สมองอะไรเลย ใช้โครงสร้างพื้นฐานของประเทศใหญ่ๆมาบริหารจัดการเรื่องพลังงานจากต่างประเทศมาแก้ปัญหาก็จะทำให้วิกฤตผ่านพ้นไปได้แต่ก็ไม่คิดจะสนใจทำกัน เช่นเดียวกับเรื่องการเอื้อประโยชน์นายทุน ก็ต้องตัดปัญหาตรงนี้ออกไปให้ได้ถ้ามีการคอร์รัปชันเอื้อประโยชน์นายทุน บ้านเมืองก็ไปไม่ได้” ยงยุทธ กล่าว
ด้าน น.พ. เรวัต วิศรุตเวช แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อชาติ กล่าวเสริมว่า รู้สึกไม่คาดคิดเลยว่า จะมีประชาชนเข้าร่วมฟังปราศรัยขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ คิดว่าเหลือเวลาอีกแค่ 20 กว่าวัน พรรคเพื่อชาติจะไหวหรือกับการลงพื้นที่หาเสียงเพื่อสู้กับพรรคการเมืองขนาดใหญ่อีกหลายๆพรรค แต่เมื่อได้เห็นประชาชนมาสนับสนุนแบบนี้ เราไม่ได้มีความกังวลใจ แต่มีความมั่นใจที่จะเดินหน้าและก้าวต่อไปทำทุกอย่างเพื่อประชาชน