นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่าในประเทศเมียนมา ซึ่งเป็น 1 ในประเทศอาเซียน ที่มีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น มาจากรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของเมียนมา ซึ่งมีพรมแดนติดกับอินเดีย และบังคลาเทศ เดิมในเมียนมาพบการติดต่อของโรค มาจากกลุ่มคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แต่เพิ่มเริ่มพบการติดเชื้อในประเทศ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 602 คน ติดเชื้อรายใหม่ 22 คน
จากการติดข้อมูลทราบว่า ขณะนี้ที่รัฐยะไข่ มีมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดทั้งการห้ามออกจากบ้านในเวลา 21.00-04.00 น. รณรงค์หยุดเชื้อ อยู่บ้าน เพื่อชาติเหมือนไทยเรา และบุคคลที่เดินทางจากยะไข่ ไปย่างกุ้ง หรือเมืองอื่นต้องมีการกักตัว ในสถานที่รัฐจัดหาให้ 14 วัน และอยู่บ้านอีก 7 วัน รวม 21 วัน พร้อมส่งทีมแพทย์ไปเสริมให้ในรัฐยะไข่อีก 48 คน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในพื้นที่
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนไทยเนื่องจากมีพรมแดนติดกับเมียนมา กว่า 150 กิโลเมตร ได้มีการประสานหน่วยงานภาครัฐ ฝ่ายความมั่นคง เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังชายแดนและเฝ้าระวังแรงงานข้ามชาติที่อาจลักลอบเข้าไทยตามพรมแดนธรรมชาติ พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการงดการนำเข้าแรงงานเมียนมา เนื่องจากสถานการณ์โรคในปัจจุบัน จนกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคในเมียนมาจะดีขึ้น ส่วนประชาชนไทย ก็ขอให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงแออัดและต้องเคร่งรัดเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และการสแกน 'ไทยชนะ' เสมอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: