วันที่ 8 เม.ย. ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขต และนอกราชอาณาจักรที่เหลือเพียง 2 วันว่า พรุ่งนี้ (9 เม.ย.) จะเป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ดังนั้นประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. ขณะนี้ยังพอมีเวลาอยู่ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกัน

ส่วนความแตกต่างระหว่างเงื่อนไขของการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง และนอกเขตเลือกตั้ง แสวง กล่าวว่า สำหรับในเขตเลือกตั้งเป็นการเลือกตั้งเฉพาะผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้นๆ ส่วนการเลือกตั้งนอกเขต สำหรับบุคคลที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตที่ระบุไว้ตามทะเบียนบ้านในวันที่ 14 พ.ค. ส่วนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร คือสำหรับผู้ที่พำนักอยู่นอกราชอาณาจักรเท่านั้น

ทั้งนี้ สำหรับการพูดตำแหน่งบนเวที ระหว่างหาเสียงสามารถกระทำได้หรือไม่ แสวง กล่าวว่า การหาเสียงโดยพูดข้อเท็จจริงสามารถกระทำได้และถูกต้อง แต่ต้องไม่พูดจาใส่ร้ายผู้อื่นด้วยข้อความเท็จ ดังนั้นจึงขอเตือนให้คณะรัฐมนตรี และข้าราชการ พึงระวังเรื่องการกล่าวถึงตำแหน่งหน้าที่ที่มีคุณ และโทษกับพรรคการเมือง รวมถึงการใช้ทรัพยากรของรัฐในการหาเสียง เพราะอาจเกี่ยวพันกับความไม่เป็นกลางทางการเมือง

ส่วนเรื่องการจัดงานมหรสพ หรือ งานรื่นเริงต่างๆ แสวง ระบุว่า ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์เป็นหลัก ย้ำว่าหากใช้เพลงพรรคการเมืองหาเสียงด้วยการเปิดแผ่นเสียงสามารถกระทำได้ แต่ไม่ควรร้องสด หรือ มีการแสดงใดๆ เพราะอาจเข้าข่ายมีความผิดได้ ดังนั้นพรรคการเมืองและผู้สมัคร ส.ส.จึงควรหลีกเลี่ยง แต่ยืนยันว่าประชาชนยังสามารถทำได้ตามปกติ

ทั้งนี้ สำหรับเรื่องสีบัตรการเลือกตั้งนั้น ขณะนี้ทาง กกต.ยังไม่ได้กำหนด แต่อยากให้ประชาชนมั่นใจว่า ระบบบัตรเลือกตั้งของเรามีความปลอดภัย และสามารถตรวจสอบได้ ยืนยันว่า ไม่สามารถทำบัตรขึ้นมาปลอมแปลงได้

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการร้องเรียนภายหลังเปิดสมัครรับเลือกตั้ง ว่า ปัจจุบันได้รับเรื่องร้องเรียนการซื้อสิทธิ-ขายเสียงในพื้นที่ภาคอีสานแล้ว ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ดังนั้นทางผู้อำนวยการกกต.จังหวัดก็จะมีการเชิญผู้ร้องเรียนมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบความสุจริตและเที่ยงธรรมต่อไป

ส่วนสำหรับการเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองมาร่วมประชุมในวันที่ 11 พ.ค. นี้ แสวง กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เห็นรายละเอียด แต่คาดว่าน่าจะมีความคล้ายคลึงกับการประกาศเจตจำนงการเลือกตั้งในวันนี้

กกต. - พรรคการเมือง ร่วมแสดงเจตจำนงลงเลือกตั้งแบบสุจริต ลดทำผิด ร้องทุกข์กม.เลือกตั้ง 

และในวันเดียว (วันที่ 8 เม.ย.) ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปฏิรูปการเมืองสุจริตบนฐานของการเลือกตั้ง กิจกรรมการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กทม. ทั้ง 33 เขต 

แสวง กล่าวว่า มีความยินดี และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการที่ดี และมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการทำความเข้าใจกับผู้เข้าแข่งขัน คือ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้จัดการเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนการเลือกตั้ง รวมถึงวัฒนธรรมทางการเมือง เพื่อให้กระบวนการเลือกตั้งสำเร็จไปด้วยดี สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ กกต. ที่จะต้องจัดการเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับในสากล และคงไว้ซึ่งระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

การจัดโครงการในวันนี้ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ กกต. ประจำกรุงเทพมหานครได้จัดให้มีการซักซ้อมความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องในการเลือกตั้งยอมรับในการรับรู้ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยและรู้รักสามัคคีเพื่อรักษาความเป็นมิตร เป็นพี่น้อง ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง รวมทั้งลดการกระทำความผิดและการร้องทุกข์เกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง 

โดยการประกาศเจตจำนงสุจริตในการแข่งขันเลือกตั้ง ส.ส. ได้แก่ พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงถือปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด อีกทั้งแข่งขันเลือกตั้งตามกติกา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และรู้รักสามัคคี ดำรงรักษาความเป็นมิตร เป็นเพื่อนบ้าน ความเป็นญาติ เป็นพี่เป็นน้องในท้องถิ่น ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง และไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตเลือกตั้ง และซื้อสิทธิขายเสียงทุกรูปแบบ

พร้อมทั้ง ให้คำมั่นสัญญาว่า จะแข่งขันเลือกตั้งในครั้งนี้ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ดีของประเทศ รวมทั้งจะเป็นองคาพยพที่สำคัญในการพัฒนาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคง ยั่งยืนสืบต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเพียงพรรครัฐบาลที่มาเข้าร่วมได้ แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคขนาดเล็กอื่นๆ อย่าง พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคเพื่อชาติ พรรคคลองไทย พรรคทางเลือกใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคไทยภักดี พรรคเสมอภาค พรรคแนวทางใหม่ พรรคประชากรไทย พรรคอนาคตไทย พรรคเพื่อชาติไทย