วันที่ 26 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจครบ 120 วัน จะทำให้กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่
สมศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่กระทบเพราะเงื่อนไขของกฎหมาย และระเบียบราชทัณฑ์มีกรอบข้อปฏิบัติที่ชัดเจน หากข้าราชการทำตามก็จะเดินหน้าไปปกติ แต่ถ้าทำอย่างไม่จริงใจ และไม่เข้าใจก็จะเป็นปัญหา
ทั้งนี้จากที่พรรคฝ่ายค้านรณรงค์ไม่ให้มีระบบอุปถัมภ์นั้น หากมีกรณีเด็กฝากหรือเป็นลูกท่านหลานเธอจะทำงานโดยขาดความเข้าใจในระเบียบ แต่ก็ยังอยากรักษาตำแหน่งไว้ ก็จะเป็นปัญหาของสังคม ซึ่งเราก็ต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้ามาทำให้ทุกอย่างโปร่งใส
เมื่อถามถึงกรณีการปั่นกระแสว่า ทักษิณเป็นนักโทษเทวดา สมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเพราะหน่วยงานทั้งหลายชี้แจงไม่เคลียร์ และไม่กล้าที่จะตอบ ไม่รู้ระบบกฎเกณฑ์อย่างแท้จริง ไม่ได้ทำการบ้านมา ทำงานเช้าชามเย็นชาม
ส่วนจะถูกเชื่อมโยงไปยัง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้เดินทางกลับมาด้วยหรือไม่นั้น สมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องโยง ก็เป็นไปตามกฎเกณฑ์ หากเราไม่ได้คนคนที่มีคนที่ทำงานเข้าใจในระเบียบอย่างแท้จริง ก็จะเป็นปัญหาแบบนี้
สมศักดิ์ กล่าวถึงฉายารัฐบาลคือ ”แกงส้มผลักรวม“ โดยสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล ซึ่งให้เหตุผลสะท้อนกระแสสังคมที่มองว่า พรรคก้าวไกลถูกผลักออกจากการร่วมรัฐบาล และจัดตั้งรัฐบาลกับพรรครัฐบาลเดิม
สมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลเราเข้ามาใหม่ก็มีหลายประเด็นปัญหาในบ้านเมืองที่ต้องแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว และนายกรัฐมนตรีก็เป็นคนที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว
ส่วนเรื่องของฉายารัฐบาลนั้น ถ้าจะมองในลักษณะการทำงานอย่างเร็วก็ไม่แปลก แต่หากเป็นการตำหนิเรื่องที่เกิดคิดว่า การทำงานในระยะกลาง ระยะสั้น และระยะยาวจะเป็นคำตอบ
พร้อมทั้งมองว่า การตั้งฉายาอาจเป็นการพูดเพื่อหวังผล และเป็นธรรมดาของสื่อมวลชนที่พยายามจะตั้งอะไรเพื่อให้เป็นประเด็นได้ต่อเนื่อง แต่มั่นใจว่า สื่อมวลชนมีวิจารณญาณที่ดี
สำหรับเหตุผลที่มาของฉายา สมศักดิ์ กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นดีกว่าการทะเลาะขัดแย้ง และการที่เราจะพูดคุยทำความเข้าใจเป็นสัญญาณที่ดีของประเทศชาติบ้านเมืองและเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม