พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พร้อมคณะพบประชาชน และเยี่ยมชมการดำเนินกิจกรรมร้านค้าชุมชน ณ วัดบางไผ่ พระอารามหลวง โดยนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานสักขีพยานในการมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้กับผู้พิการจำนวน 20 ราย พร้อมกล่าวกับประชาชนว่า การลงพื้นที่ของตนเองวันนี้เป็นการตรวจเยี่ยมตามปกติ และต้องขอบคุณในการต้อนรับของชาวจังหวัดนนทบุรี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนฟังตนเองพูดมาเยอะแล้ว ย้ำอีกครั้งว่าวันนี้ไม่ได้มาเพื่อการเมือง ไม่ได้มาเพื่อให้สนับสนุนพรรคใดทั้งสิ้น แต่มาด้วยตัวของตนเอง มาด้วยรัฐบาลนี้ที่จำเป็นที่ต้องมาพบกับทุกคนเพื่อทำความเข้าใจ สื่อสารว่าจะร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้าได้ และวันนี้เราจำเป็นต้องสื่อสารสองทาง ทั้งในส่วนของรัฐบาลและภาคประชาชน
ขณะที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่รัฐบาลกำหนดออกมานั้นก็เพื่อคนทุกเพศทุกวัยเป็นการดูแลในรูปแบบสวัสดิการแห่งรัฐ และนโยบายนี้ไม่ได้ทำเพื่อให้มาชอบตน ทุกอย่างทำมาตามขั้นตอนเมื่อถึงเวลาก็ทำเพิ่มเติมให้ วันข้างหน้าก็เป็นเรื่องของรัฐบาลต่อไปที่จะมาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อ ไม่ใช่มาว่ากันไปมา แต่ตนไม่เคยไปว่าอะไรใคร และไม่เห็นว่ามันจะเกิดอะไรที่ดีขึ้นจากการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ที่ผ่านมาเราก็ยอมรับในกติกามาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อถึงเวลาก็ควรยอมรับกติกากันบ้าง กฎหมายว่าอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้นขอให้ทุกคนเข้าใจในตรงจุดนี้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลที่เข้ามาทำงานช่วงสี่ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจมองว่านานเหลือเกินเบื่อหน้านายกแล้วอยู่มา4-5 ปี น่าเบื่อเหลือเกินแต่ตนกลับรู้สึกว่าเวลามันรวดเร็วที่ว่าเร็วไม่ใช่เพราะว่าอยากอยู่ต่อแต่เร็วเพราะการแก้ไขปัญหาหลายอย่างยังไม่จบใช้เวลามากขนาดนี้
"อยากถามว่าถ้าไม่มีรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไป เป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะเลือกเข้ามา ทุกคนมีหน้าที่เลือกด้วยตัวเอง แต่ขอความกรุณาให้เลือกด้วยเหตุและผล ควรจะต้องเลือกคนที่มีความรู้ มีคุณธรรม มีความตั้งใจดี มีความปรารถนาดีเข้ามา ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองดีขึ้น ไม่ใช่พูดแค่ดิสเครดิตตรงนั้นตรงนี้ ว่าทุกคนไปหมดมันไม่ได้จะทำให้ทุกอย่างชะงักไปเสียทั้งหมด หลายอย่างที่เคยได้รับความร่วมมือก็จะเสียหาย และทำให้เสียเวลา"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้รังเกียจใครทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องกลไกทางการเมือง และประชาธิปไตย การที่ตนเข้ามา 4-5 ปีก็เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งหลายอย่างเป็นปัญหาที่ทับถมมานานจึงจำเป็นต้องมีมาตรการในการแก้ไขปัญหา ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร ทุกคนจึงต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเพื่อเดินหน้าประเทศ และติดตามข่าวสารต่างๆ ที่เป็นข้อเท็จจริงดีกว่าติดตามข่าวสารที่เป็นเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกัน
"วิสัยทัศน์ของเราคือบ้านเมืองต้องมั่นคง ลืมไปหรือไม่ว่าวันนี้บ้านเมืองสงบ มั่นคงตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ถนนไม่ถูกปิด เดินทางไปไหนมาไหนได้ ตนไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจ หรืออาวุธปืนไปบังคับใคร ก็ไม่เห็นจำเป็น ประชาชนดูแลกันได้อยู่แล้ว"
หัวหน้าคสช. ย้ำว่า รัฐบาลต้องดูแลผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขออย่าเรียกว่าบัตรคนจนและวันข้างหน้าต้องทำให้มีรายได้มากขึ้น และไม่เป็นภาระกับการเงิน การคลังของประเทศ ไม่ว่าใครจะมาพูดว่าจะให้นู่นให้นี่ ต้องชี้แจงให้ได้ว่าเอางบประมาณมาจากไหน สัญญาว่าจะให้เงินให้ทอง ต้องระมัดระวัง
สำหรับบรรยากาศลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เป็นไปด้วยความคึกคัก มีข้าราชการ ครู นักเรียน นักศึกษา และประชาชนมารอให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี จำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีนายทศพล เพ็งส้ม อดีต ส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตอนนี้ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้ว มาร่วมให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วย โดยนั่งบริเวณด้านหน้าของเวทีแต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด