ไม่พบผลการค้นหา
ชายชุดเสื้อกันฝนสีชมพูโผล่แจงกลางม็อบนักเรียนเลว ยืนยันตัวเองไปชุมนุม แต่ไม่ใช่มือยิงใส่ม็อบเสื้อเหลืองหน้ารัฐสภา ย้ำคนยิงแต่งกายคล้ายกับตัวเอง เตรียมเอาผิดผู้แพร่คลิปหากไม่ลบใน 3 วัน

เวลา 18.00 น. ที่หน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน อนุชา จันทร์ศรี อายุ 47 ปี หนึ่งผู้ร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร 2563 ที่หน้ารัฐสภา ย่านเกียกกาย เมื่อว้นที่ 17 พ.ย. ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชักปืนยิงกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองที่ออกมาคัดค้านการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย โดยยืนยันพร้อมภาพถ่ายการแต่งกายในวันที่เข้าร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย. บริเวณหน้ารัฐสภา พิกัดจุดปะทะระหว่างคณะราษฎรและคนเสื้อเหลือง พร้อมขอให้คนที่เผยแพร่คลิปดังกล่าวลบภายใน 3 วัน หากไม่ดำเนินการตนพร้อมจะดำเนินคดีทางกฎหมาย เนื่องจากทำให้ตนเสียหาย

อนุชา ระบุว่า ไปร่วมชุมนุมจริง แต่ไม่ได้เป็นคนในวันนั้นที่ถือปืนยิง พร้อมนำภาพหลักฐานมาประกอบว่าไม่ใช่ตนเอง และยังระบุอีกว่า ตนเองเป็นอดีตทหารลาออกมานานแล้ว แต่เวลานี้เป็นเป็นพ่อค้าขายหมูสะเต๊ะ เมื่อส่งของเสร็จแล้วก็ไปร่วมชุมนุม โดยยืนอยู่แถวนั้นจริง แต่งตัวคล้ายกันจริง แต่ตนเองสวมรองเท้าแดง ขณะที่ผู้ก่อเหตุใส่รองเท้าสีขาว จึงนำหลักฐานมาให้สื่อดู และขอให้สื่อลบภาพคลิปภายใน 3 วัน แล้วจะไม่ดำเนินคดี แต่หากไม่ลบคลิป จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร พร้อมขอโทษ ทอ. ที่ทำให้เสียชื่อเสียง ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ตนถูกออกหมายจาก สภ.คูคตว่าเป็นผู้ต้องสงสัย จึงได้ไปพบตำรวจและลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติมว่า ตนเองไม่ใช่คนเดียวกับในภาพที่ปรากฏ

ชายเสื้อชมพู เกียกกายชายเสื้อชมพู เกียกกาย

โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ได้แถลงข่าวว่าชายชุดเสื้อกันฝนสีชมพูเป็นการ์ดราษฎร เป็นผู้นำอาวุธปืนเปิดฉากยิงใส่กลุ่มประชาชนที่ปักหลักชุมนุมที่ถนนทหารก่อนโดยพนักงานสอบสวนจะเก็บพยานหลักฐานดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การชุมนุมโดยมิชอบ และร่วมกันตั้งแต่ 10 คนเป็นต้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง รวมถึงทำร้ายร่างกาย และทำให้สูญเสียทรัพย์สิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง