ไม่พบผลการค้นหา
รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจร่วมวงประกาศนโยบายเร่งด่วน 3 เดือนทำให้เห็น 'คลัง' รื้อภาษีใหม่ เล็งเก็บภาษีพลังงาน 'อุตสาหกรรม' เดินหน้าขยายกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์-ระบบอีเพย์เมนต์ 'พลังงาน' เดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชน 'คมนาคม' ลั่นค่าโง่ต้องไม่เกิด ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าต้องถูก 'ท่องเที่ยว' จัดทัวร์นาเมนต์ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ในงาน BANGKOK POST FORUM 2019 ROADMAP TO SUCCESS UP CLOSE WITH THAILAND’S NEW MINISTERS หรือ ทิศทางประเทศไทยภายใต้รัฐบาลใหม่ มีรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจร่วมเผยแนวทางขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน ที่ประชาชนจะได้เห็นภายใน 3 เดือน ดังนี้

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ และลดผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก กระทรวงการคลังจะต้องเร่งดำเนินการเพิ่มขีดความสามารถในการเเข่งขัน ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการดูแลงบประมาณ

โดยกระทรวงการคลังเดินหน้าขยายกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟัน ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นงานที่ต้องทำทันที รวมถึงจะขยายระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Payment ส่วนเรื่องสวัสดิการต่างๆ จะเดินหน้าดูแลกลุ่มคนผู้สูงวัยเพิ่มศักยภาพให้คนกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากในปี 2557 ไทยใช้งบประมาณ 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของงบประมาณในการดูแลผู้สูงอายุ และเพิ่มเป็นร้อยละ 13 หรือ 4 แสนล้านบาทในปี 2561

ส่วนการปฎิรูปการจัดเก็บรายได้ ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาความเหมาะสมเพื่อปรับปรุงระบบการจัดเก็บให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะภาษีรูปแบบใหม่ อาจจะต้องมีการจัดเก็บเพิ่ม เช่น ภาษีที่เกี่ยวกับพลังงานและอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้กระทบการวินัยการเงินการคลัง สร้างสมดุลให้เกิดขึ้น

อุตตม สาวนายน-งาน Bangkok Post Forum 2019

"แนวทางการจัดเก็บภาษีต้องศึกษาแนวทางเพื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง แนวทางจะต้องดูระบบจัดเก็บ สร้างความเท่าเทียมตามความเหมาะสมของประชาชน และภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ประสิทธิภาพการจัดเก็บต้องพิจารณาการจัดเก็บภาษีรูปแบบใหม่ เช่น ภาษีที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน และอุตสาหกรรม" นายอุตตม กล่าว

อุตสาหกรรม เดินหน้าดึงเม็ดเงินต่างชาติลงทุนไทย ปลดล็อกเงินกู้ SMEs

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่กำลังส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทย แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะสามารถดึงดูดนักธุรกิจ นักลงทุน เพื่อโยกย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทยเพิ่มเติม

โดยในช่วง 2-3 เดือนหลังจากนี้ จะนำคณะเดินทางไปยังประเทศต่างๆ เพื่อเจรจาการค้าการลงทุน และร่วมพูดคุยรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อต่อยอดการลงทุน โดยเฉพาะในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC 

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างเตรียมหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะขั้นตอนเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ยังเป็นปัญหาหลักของผู้ประกอบการ โดยจะมีธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยเป็นสถาบันการเงินหลักพิจารณาให้สินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-งาน Bangkok Post Forum 2019

"สงครามการค้ากระทบเศรษฐกิจไทยก็จริง แต่ก็เป็นโอกาสของไทยที่จะดึงเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะออกไปพบนักลงทุนเร็วๆ นี้ ซึ่งมั่นใจว่าไทยจะไม่สูญเสียความสามารถดึงดูดนักลงทุน" นายสุริยะ กล่าว

พลังงานลุยโรงไฟฟ้าชุมชน ปชช.ใช้ไฟถูกและฟรี ดันไทยฮับพลังงานไฟฟ้าอาเซียน 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือ แผนพีดีพี 2018 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างโรงไฟฟ้าชุมชน และให้ภาคประชาชน คนในชุมชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีร่วมลงทุนเป็นเจ้าของพลังงาน แล้วแบ่งปันผลกำไรกับภาคชุมชน เช่น โซลาร์เซล โซลาลูกท็อป รวมถึงไบโอแก๊ส กำลังเร่งให้ศึกษาให้กลุ่มคนได้สิทธิใช้ไฟฟ้าราคาพิเศษกว่าคนอื่น หรือ ใช้ไฟฟรี หากมีการลงทุนโรงไฟฟ้าในชุมชน

นอกจากนี้ การปรับแผนพีดีพี ให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางไฟฟ้าของอาเซียน เพื่อเป็นแลนด์ลิงค์ของภูมิภาค นอกจากผลิตแล้วใช้ ต้องพลิกให้เป็นเทรดเดอร์พลังงานของอาเซียน

ทั้งนี้ มีแผนยกเลิกน้ำมัน B5 เปลี่ยนไปใช้ B7 ยกเป็นน้ำมันพื้นฐาน เพื่อสร้างสมดุลการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลดึงพืชน้ำมันให้มีบทบาทมากขึ้น และให้น้ำมัน B20 เป็นทางเลือก ซึ่งจะทำให้เกิดเสถียรภาพของผลผลิตปาล์มน้ำมัน สร้างภาคเกษตรเข้มแข็ง

สุทธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์-งาน Bangkok Post Forum 2019

"ไม่กังวลในความเป็นพรรคร่วม เพราะจะใช้แนวทางของ ครม.เศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อน โดยทิศทางพลังงานทดแทนให้ภาคชุมชนเป็นเจ้าของพลังงาน ซึ่งกำลังดูว่าในพื้นที่ที่มีการลงทุนโรงไฟฟ้าจะสามารถลดค่าไฟ หรือ ให้ใช้ไฟฟรีสำหรับประชาชนในพื้นที่" นายสนธิรัตน์ กล่าว

พาณิชย์ เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย ประกันรายได้พืชเกษตร 5 ตัว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า นโยบายเร่งด่วน 4 ด้านที่จะดำเนินการ คือ การประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยจะประกันพืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด

นอกจากนี้ จะมีการดูแลค่าครองชีพของประชาชนควบคุมราคาสินค้า เร่งรัดการส่งออก และเจรจาระหว่างประเทศ โดยขณะนี้ได้มีการตั้ง กรอ. พาณิชย์ เพื่อสื่อกลางให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพื่อหาแนวทางผลักดันการส่งออก โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ซึ่งจะเริ่มหารือกันนัดแรก วันที่ 10 สิงหาคม 2562 เวลา 9.00 น. ที่กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากมีประสบการณ์จริงในการทำการค้า ซึ่งภาครัฐจะคอยเป็นผู้สนับสนุนและอำนวยความสะดวก

พร้อมกันนี้จะส่งเสริมการค้าชายแดน เนื่องจากอาเซียนยังคงเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งมูลค่าการค้าชายแดนก็จะมาช่วยส่งเสริมมูลค่าส่งออกมากขึ้น โดยจะจัดเวทีพบปะระหว่างภาคเอกชน ถึงอุปสรรคทางการค้าและจะไปเจรจากับผู้ค้าชายแดนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไทยมากขึ้น 

รวมถึงต้องเร่งเจรจากับเวทีระหว่างประเทศ อย่าง RCEP (อาร์เซป) หรือ ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค ที่เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง ASEAN 10 ประเทศ กับคู่ภาคีที่มีอยู่ 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ให้เเล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2562 หลังจากยืดเยื้อมานานกว่า 7 ปี โดยจะเร่งลงนามให้แล้วเสร็จภายในปี 2563

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์-งาน Bangkok Post Forum 2019

"แนวทางสำคัญมี 4 เรื่อง หลักๆ คือ การคุมรายจ่าย เพิ่มรายได้ ทั้งการประกันรายได้เกษตรกร การดูแลควบคุมราคาสินค้า ค่าครองชีพ เร่งรัดส่งออก และเจรจาระหว่างประเทศที่ค้างท่อ" นายจุรินทร์ กล่าว

คมนาคม ย้ำคำเดิมค่าโง่ต้องไม่เกิด เร่งรัดโครงการล่าช้า-ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จะเดินหน้าเร่งรัดโครงการก่อสร้างที่มีปัญหาและล่าช้า จนเกิดผลกระทบกับประชาชน เช่น ถนนพระราม 2 นอกจากนี้จะมีการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ หรือ PM 2.5 โดยจะกวดขันให้กรมขนส่งทางบกตรวจสอบสภาพรถอย่างเคร่งครัด หากเกิดข้อร้องเรียนเข้ามาทางหน่วยจะงานต้องรับผิดชอบ 

ทั้งนี้ จะปรับเวลาวิ่งรถบรรทุกในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ให้วิ่งเฉพาะในช่วงเวลา 24 นาฬิกา ถึง 4 นาฬิกา เพื่อบรรเทาปัญหาจราจร โดยจะหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ/ กำหนดศึกษากวดขันวินัยการจรากร โดยการสัญจรทางหลัก จะแก้ไขกฎกระทรวงบังคับใช้ความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 120 ต่อชั่วโมง บนถนน 4 เลนขี้นไป โดยในเลนขวาวิ่งได้เร็วสุดลดหลั่นความเร็วในแต่ละเลน 

ส่วนรถขนส่งสาธารณะ จะเดินหนเาผลักดันแกร็บเข้าสู่ระบบภายใต้กฎหมายเดียวกัน รวมถึงการหาแนวทางของช่วงลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ ทั้ง มอเตอร์ไซต์รับจ้าง แท็กซี่มิเตอร์ น่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ เตรียมหารือเพื่อออกนโยบาย ปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยไม่ให้ส่งผลกระทบกับภาษีของประชาชน ซึ่งคาดว่ามีแนวทางที่สามารถดำเนินการได้ โดยได้หารือประเด็นนี้ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายศักดิ์สยาม ย้ำว่า ภายใต้การบริหารงานกระทรวงคมนาคมชุดนี้จะไม่มีค่าโง่เกิดขึ้น

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ-งาน Bangkok Post Forum 2019

"หลายเรื่องที่เป็นค่าโง่ คือ เราเอื้อเอกชนมากเกินไป หลังจากนี้เราต้องดูให้ละเอียด และคำนึงถึงผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ก็จะไม่มีค่าโง่" นายศักดิ์สยาม กล่าว

ท่องเที่ยวฯ เตรียมจัดทัวร์นาเมนต์แข่งกีฬาระดับโลก ดึงต่างชาติเที่ยวไทย 

นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เรื่องที่ต้องทำใน 3 เดือนแรก คือ จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยมุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวแบบอิสระ หรือ FIT (Foreign Individual Tourism) เนื่องจากมีการใช้จ่ายมากกว่าแบบมากับทัวร์ 

โดยการท่องเที่ยวและกีฬาต้องผนึกการทำงานร่วมกัน เพื่อจัดทัวร์นาเมนท์แข่งขันกีฬาระดับโลก นอกเหนือจากมอเตอร์จีพี เช่น การวิ่งเทรล หรือ แข่งขันกีฬา e-Sport ซึ่งจะเป็นการนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยอีกด้วย จึงต้องของบประมาณจากคณะรัฐมนตรีมาดูแลในส่วนนี้

ที่สำคัญ คือ การสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้ง จะเน้นการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวไปทุกจังหวัด ไม่ให้จำนวนนักท่องเที่ยวกระจุกตัวอยู่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง รวมถึงความปลอดภัยโดยมีแนวทาง คือ จะสร้างอาสาสมัครตามชุมชน เพื่อมีส่วนร่วมในการดูแลนักท่องเที่ยว

พิพัฒน์ รัชกิจประการ-งาน Bangkok Post Forum 2019

"เรามีความคิดว่าในปีหน้าจะดึงนักแข่งระดับโลกมาไทย ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องขอความร่วมมือทุกส่วนและต้องของบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งการจัดแข่งขันคงต้องให้รัฐบาลรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เชื่อว่าผลพลอยได้จะมีผู้ติดตามมาร่วมจำนวนมาก" นายพิพัฒน์ กล่าว

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงนโยบายบางส่วนที่แต่ละกระทรวงเตรียมที่จะดำเนินการเร่งด่วน ดังนั้นจึงต้องจับตาว่าคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดนี้ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ จะสามารถผลักดันให้เกิดเกิดผลเป็นรูปธรรรมได้มากเพียงใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :