ต่างประเทศ
แพทย์อังกฤษแต่งเพลงสู้ 'โควิด-19' เตือนหนุ่มสาวอย่าเมินคำสั่งกักตัว
เมซา โรซี แพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาลควีนส์เมดิคัลเซ็นเตอร์ (QMC) ในเมืองน็อตติงแฮมของอังกฤษ ร้องเพลง We all have a part to play ซึ่งเธอแต่งเอง เผยแพร่ลงในยูทูบและทวิตเตอร์ หลังจากที่ 'บอริส จอห์นสัน' นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่าประเทศเข้าสู่ระยะที่ 2 (phase 2) ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
รัฐบาลอังกฤษออกคำสั่งให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตาม 'มาตรการกักตัว' และเว้นระยะทางสังคม (social distancing) โดยผู้ป่วยโรคโควิด-19 หรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อที่รอการยืนยันผล ให้กักตัวเองในที่พักตามเวลาที่กำหนด รวมถึงสั่งปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย และงดจัดกิจกรรมรวมกลุ่มทั่วประเทศไปจนกว่าจะมีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก
อย่างไรก็ตาม ดร.โรซี มองว่าคนหนุ่มสาวจำนวนมากยังไม่ตระหนักถึงความจำเป็นของการกักตัวและมาตรการเว้นระยะทางสังคม จึงแต่งเพลงเตือนคนที่ไม่ทำตามคำสั่งของรัฐบาลให้เข้าใจว่าเพราะเหตุใดจึงต้องกักตัวหรือเว้นระยะทางสังคม
เนื้อหาในเพลงของเธอชี้ว่า คนหนุ่มสาวหรือคนที่มีร่างกายแข็งแรงอาจติดโรคโควิด-19 และมีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่พวกเขาเหล่านี้จะเป็นพาหะนำเชื้อไปสู่กลุ่มเสี่ยงได้ เช่น คนแก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือป่วยเรื้อรัง รวมถึงสตรีมีครรภ์ ซึ่งถ้าคนกลุ่มนี้ติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงสูงที่จะอาการหนัก
ท่อนหนึ่งของเนื้อเพลงระบุด้วยว่า "อยากจะบอกว่า 'ทุกอย่างจะดีขึ้น' แต่จากมุมของคนที่อยู่แนวหน้าในการสู้กับโรค มีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก และขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคน พวกคุณที่เป็นคนหนุ่มสาวอาจจะแข็งแรง และคงจะไม่ตาย แต่คุณอาจแพร่เชื้อให้คนอื่นได้แค่จากการจับมือร่ำลา ส่วนคุณย่าคุณยายของคุณอาจจะยังแข็งแรง แต่ท่านก็แก่มากแล้ว เพื่อนบ้านของคุณก็อาจจะเป็นโรคมะเร็งโดยที่คุณไม่รู้...ร่างกายของพวกเขาต้านทานเชื้อโรคไม่ได้เหมือนอย่างคุณ และพวกเขาต้องการให้คุณช่วยต่อสู้กับโรคนี้"
เพลง We all have a part to play ของ ดร.โรซีได้รับความสนใจจากสื่อหลายสำนัก โดย BBC รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ ดร.โรซี ที่เตือนว่า สถานการณ์โควิด-19 ในอังกฤษขณะนี้เปรียบได้กับ "ความเงียบสงบก่อนที่พายุจะมา"
ดร.โรซีระบุด้วยว่า ภาพหรือข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ที่ทำให้เห็นว่าคนอังกฤษจำนวนมากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกักตัวหรือเว้นระยะทางสังคม เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับบุคลากรการแพทย์ที่ต้องรับมือสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ
นอกจากนี้ The Guardian รายงานด้วยว่า บุคลากรการแพทย์ในอังกฤษประสบปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ และในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น ปัญหานี้จะทำให้การรับมือหรือควบคุมโรคระบาดสำเร็จได้ยาก
ทางด้านสำนักงานระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ขอความร่วมมือประชาชน 1.5 ล้านคนที่มีประวัติการรักษาโรคเรื้อรังทั่วประเทศ รวมถึงผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 และผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ให้กักตัวเองอยู่ในบ้านเป็นเวลา 12 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.เป็นต้นไป แต่ก่อนที่คำสั่งจะมีผลบังคับใช้ เกิดภาวะแตกตื่นและมีการกักตุนสินค้า รวมถึงการต่อต้านและฝ่าฝืนมาตรการของคนจำนวนมากในอังกฤษ
ส่วนข้อมูลล่าสุดที่รัฐบาลอังกฤษแถลงในวันที่ 25 มี.ค. พบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศ มีจำนวนทั้งหมด 9,529 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 463 ราย โดยที่กรุงลอนดอนมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 156 ราย
ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในยุโรปประสบปัญหาโควิด-19 แพร่ระบาดรุนแรงไม่แพ้กัน โดยสเปนและอิตาลี มีผู้เสียชีวิตเกิน 6,000 คนทั่วประเทศแล้ว
ภาพ: John Cameron on Unsplash
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
