การประชุมสูงสุดระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียในครั้งนี้ อาจจะทำให้ยุโรปสามารถหาทางออกจากวิฤตยูเครน ซึ่งเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคยุโรปในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทางการสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่าจากข้อมูลของหน่วยสืบราชการพบว่า รัสเซียพร้อมจะรุกรานยูเครนได้ในทุกเมื่อ ในขณะที่ทางการรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริงมาโดยตลอด
การประกาศในครั้งนี้ได้รับการยืนยันหลังจากที่ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสต่อสายโทรศัพท์สองสายตรงถึงปูติน ซึ่งใช้เวลารวมในการพูดคุยกันระหว่างผู้นำทั้งสองกว่าเกือบสามชั่วโมง ก่อนที่ทางมาครงจะต่อสาย 15 นาทีมายังไบเดน เพื่อเสนอหลักการในการพูดคุยกันระหว่างผู้นำทั้งสองในการหาทางออกของวิกฤตในครั้งนี้
รายละเอียดในการประชุมสูงสุดระหว่างไบเดนและปูตินจะเปิดเผยออกมาอีกครั้ง หลังจากการพูดคุยกันในรายละเอียดระหว่าง แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กับ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ (24 ก.พ.)
ทำเนียบขาวยังคงยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้รับข่าวกรองว่ารัสเซีย “ยังคงดำเนินการเตรียมกองกำลังเต็มรูปแบบเพื่อโจมตียูเครนในเร็วๆ นี้” และสหรัฐฯ มีความพร้อมในการตอบโต้รัสเซียด้วย “ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและรุนแรง” หากว่าการรุกรานเกิดขึ้นจริง
บริษัทดาวเทียมของสหรัฐฯ อย่าง Maxar เปิดเผยภาพที่พบว่า รัสเซียมีการระดมเพิ่มอาวุธและกองกำลังใกล้กับพรมแดนของยูเครน สอดคล้องกันกับหลักฐานที่ทางการสหรัฐฯ ได้รับว่า รัสเซียมีกองกำลังของตนเองประชิดชายแดนยูเครนแล้วกว่า 190,000 ราย รวมถึงในดินแดนโดเนตสค์และลูฮันสค์ของยูเครน ซึ่งมีกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่มีรัสเซียให้การหนุนหลังอยู่
ในสายโทรศัพท์แรกระหว่างมาครงกับปูตินนั้น ได้มีการตกลงกันในการ “ให้ความสำคัญกับการหาทางออกในทางการทูต” ของวิกฤตในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการหยุดยิงในเบื้องต้น ทั้งนี้ ปูตินกล่าวหาว่าทางกองทัพยูเครนเป็นผู้ยกระดับความตึงเครียดเอง ในขณะที่ทางการยูเครนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมยืนยันว่ารัสเซียเป็นผู้ก่อให้เกิดความตึงเครียดตั้งแต่แรก
โลกยังคงจ้องจับตาการพูดคุยระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และรัสเซีย ในการหาทางออกของวิกฤตในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี หากเกิดการรุกรานจากทางรัสเซียต่อยูเครนขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่โลกเคยเจอมาในปี 2488 หรือเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองจบลง
ทั้งนี้ โวโลโดเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนระบุว่า ยูเครนจะไม่ตอบโต้การยั่วยุใดๆ จากทางฝั่งรัสเซีย เพื่อให้กลายเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การรุกรานยูเครน แต่ทางยูเครนพร้อมจะป้องกันตนเอง หากรัสเซียทำการรุกรานประเทศ นอกจากนี้ ชาเลนสกีกล่าวหาว่าชาติตะวันตกพยายามใช้ “นโยบายการจำยอมสละ” ต่อรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม และกลับเรียกร้องที่จะมอบการรับรองความปลอดภัยใหม่ให้แก่ยูเครน
ที่มา:
https://www.bbc.com/news/world-europe-60454818
https://www.aljazeera.com/news/2022/2/21/biden-and-putin-agree-to-summit-amid-ukraine-tensions