ไม่พบผลการค้นหา
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้นำเงินกำไรมูลค่า 1 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท) จากข้อตกลงลานกังหันลมผลิตไฟฟ้า ภายใต้สังกัดสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อังกฤษ มอบไปใช้เพื่อ “ประโยชน์สาธารณะ” แทนการนำเงินกำไรจำนวนดังกล่าวไปใช้ในพระราชวงศ์เอง

ทั้งนี้ ภายใต้เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์จากเงินทุนผู้จ่ายภาษี ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นมูลค่า 86.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3.5 พันล้านบาท) ต่อปี สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงได้รับเงินรายได้ส่วนเกินประจำปีจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อังกฤษ ซึ่งรวมถึงเงินพิเศษจำนวน 10% ในการตกแต่งพระราชวังบักกิงแฮมใหม่

ข้อตกลงเช่าลานกังหันลมผลิตพลังงานนอกชายฝั่งจำนวน 6 ฉบับใหม่ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานให้แก่ 7 ล้านครัวเรือน ได้รับการประกาศจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อังกฤษในวันนี้ (19 ม.ค.) ทั้งนี้ ลานกังหันลมดังกล่าวเป็นลานกังหันลมที่ผลิตพลังงานหลักของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อังกฤษ และผลกำไรในเวลาปกติมักถูกนำส่งไปยังกองทุนของสำนักพระราชวังของพระมหากษัตริย์อังกฤษ

อย่างไรก็ดี สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระราชดำรัสเน้นย้ำถึงปัญหาวิกฤตค่าครองชีพของประชาชนในช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา ทำให้ทรงมีพระกระแสรับสั่งนำทุนพิเศษ “ส่งตรงไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ” แทนที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปใช้เป็นการส่วนพระองค์ ท่ามกลางช่วงเวลาที่ประชาชนเผชิญหน้ากับความยากลำบากในทางการเงิน

ยังไม่เป็นที่แน่ชัดเกี่ยวกับจำนวนของผู้เสียภาษีสนับสนุนเงินทุนของพระมหากษัตริย์ แต่มีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนมากถึงหลายล้านคน ทั้งนี้ ที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่ดินและทรัพย์สินอันตกทอดมาแต่โบราณกาล นับเป็นสมบัติของพระมหากษัตริย์ผู้ครองราชย์ “ตามสิทธิขององค์พระมหากษัตริย์” แต่ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์

พระมหากษัตริย์อังกฤษจะทรงสละเงินรายได้จากสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งคิดเป็นเงินมากกว่า 312 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.27 หมื่นล้านบาท) ต่อปีไปยังกรมธนารักษ์ในสมเด็จฯ ทุกๆ ปี เพื่อเป็นประโยชน์แก่การเงินของชาติ ในการตอบแทนกับการที่จะทรงได้รับการถวายเงินปีส่วนพระมหากษัตริย์

ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงใช้การออกพระราชดำรัสวันคริสต์มาสครั้งแรกของพระองค์ในฐานะองค์พระประมุขพระองค์ใหม่ เพื่อเน้นย้ำถึงความตรากตรำของครอบครัวในบรรดาพนกนิกร ที่ต่างต้องประสบกับวิกฤตราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น และยังได้ทรงยกย่องบุคคล องค์กรการกุศล และกลุ่มศาสนา ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระราชดำรัสถึง “ความหวั่นวิตกและความยากลำบากครั้งใหญ่” ซึ่งผู้คนจำนวนมากต่างประสบไปกับการ “จ่ายหนี้สินและทำให้ครอบครัวของตัวเองยังกินอิ่มและมีความอบอุ่น” โดยตลอดช่วงการมีพระราชดำรัสของพระองค์ มีการฉายภาพธนาคารอาหาร และภาพการแจกจ่ายอาหารช่วยเหลือคนไร้บ้านด้วย

เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์อังกฤษ มักถูกใช้ไปกับหน่วยงานในพระองค์ และการจัดพระราชพิธีเลี้ยงรับรอง การลงทุน และการจัดงานฉลองในสวน โดยส่วนแบ่งเงินปีส่วนพระมหากษัตริย์อังกฤษมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 15% ไปเป็น 25% เมื่อปี 2560 เพื่อทบกับเงินค่าใช้จ่ายโครงการ 10 ปีมูลค่า 369 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท) ในการซ่อมแซมพระราชวัง

เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์อังกฤษถูกปรับเพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีผลกำไรเพิ่มขึ้น แต่กลับไม่มีการปรับลดลงเมื่อผลกำไรมีปริมาณที่ลดลง ทั้งนี้ เงินทุนสุทธิทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านปอนด์ (ประมาณ 6 แสนล้านบาท)


ที่มา:

https://www.theguardian.com/uk-news/2023/jan/19/king-charles-redirects-1bn-windfarm-profits-towards-public-good?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR2H9m_8r4-CMCjhu0SKDqJhxRxK0XRfqJOG0szsWCKEWR9xOIS1KXrpXZs