ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดใช้แอลพีจีลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 16% จากพิษโควิด-19 ระบาด ทำให้ครึ่งหลังของปี 2563 ไทยไม่มีการนำเข้ามาใช้เอง คาดปี 2580 การใช้ภาคขนส่งจะอยู่ที่ 0.28 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากปี 2562 อยู่ที่ 2.80 ล้านกิโลกรัมต่อวัน

สำนักข่าวไทย รายงานว่า นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับการลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มและราคาน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงคาดว่าการใช้ก๊าซหุงต้ม (LPG) ปี 2563 เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 14.99 ล้านกิโลกรัมต่อวัน จากครึ่งปีแรกการใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.0 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 16% จึงทำให้ความต้องการนำเข้าก๊าซแอลพีจีลดลง มีการใช้จากแหล่งในประเทศ ล่าสุด บมจ.ปตท. หยุดส่งแผนนำเข้า LPG ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ซึ่งช่วงปีนี้ ปตท.แจ้งนำเข้าเพียงเดือนเดียว คือ เดือน ก.ค. นำเข้าปริมาณ 9,000 ตัน เพื่อนำมาใช้ในประเทศเท่านั้น โดยที่ผ่านมาไทยได้นำเข้า LPG ครั้งแรกปี 2551   

ส่วนบริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) ยังมีการแจ้งแผนนำเข้าเพื่อส่งออกทุกเดือนในปริมาณประมาณ 3,000 ตัน ส่วนบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP ได้หยุดการนำเข้าไปตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และหันไปซื้อก๊าซฯ ในประเทศ จาก ปตท. มาจำหน่ายแทน จากเดิมมีทั้งนำเข้าและซื้อก๊าซฯ ในประเทศมาจำหน่าย

ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงาน ยังประเมินด้วยว่า การใช้ก๊าซ LPG ภาคขนส่งจะลดลงเรื่อย ๆ จากในอดีตที่มีความนิยมสูง เพราะมีการอุดหนุนราคา โดยปี 2580 คาดการใช้ภาคขนส่งจะอยู่ที่ 0.28 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากปี 2562 อยู่ที่ 2.80 ล้านกิโลกรัมต่อวัน และการใช้ก๊าซ NGV ปี 2580 จะอยู่ที่ 1.74 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากปี 2562 อยู่ที่ 5.39 ล้านกิโลกรัมต่อวัน