ไม่พบผลการค้นหา
ชาวยโสธรร่ำไห้! น้ำท่วมบ้านเรือนและที่นา ‘สุดารัตน์’ พร้อมทีมเพื่อไทยลงพื้นที่แจกถึงยังชีพ เตือนป้องกันโรคฉี่หนู

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค, นายการุณ โหสกุล ส.ส. กรุงเทพมหานคร, นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื่อ, นายบุญแก้ว สมวงศ์, และนายธนกร ไชยกุล ส.ส. ยโสธร, นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส. อุบลราชธานี เดินทางมาพบชาวบ้านที่โรงทานวัดดอนกลอย ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมมอบน้ำดื่มและอาหารแห้งให้ชาวบ้านดอนกลอย

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวกับชาวบ้านว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้ตั้งกรรมาธิการเพื่อผลักดันราคาพืชผลการเกษตร และจี้ให้รัฐบาลทำตามนโยบาย เราจะไม่ท้อ เราจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยพี่น้องให้ได้มากที่สุด พี่น้องต้องสู้ไปด้วยกัน พี่น้องทุกข์เมื่อไหร่ บอกเลยจะมาหา หลังจากนั้นมีคุณยายท่านหนึ่ง บอกว่างเป็นแฟนเพื่อไทยมาตลอด และวันนี้ไม่สบาย แต่อยากเจอคุณหญิงสุดารัตน์ จึงให้ลูกอุ้มลงมา และขอเสื้อพรรคไว้เป็นที่ระลึก คุณหญิงสุดารัตน์ จึงถอดเสื้อคลุมของพรรคเพื่อไทยให้ หลังจากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์และทีมงานเดินลุยน้ำให้กำลังใจชาวบ้านที่อยู่ติดบ้าน ไม่หนีน้ำขึ้นที่สูง


สุดารัตน์ ลงพื้นที่น้ำท่วม ยโสธร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนขึ้นรถ 6 ล้อมาที่บ้านคำน้ำสร้าง ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร มอบถุงยังชีพ ให้กับชาวบ้าน หมู่บ้านนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้มา 5 วันแล้ว ต้องปั่นไฟหรือแบตเตอร์รี่รถยนต์ เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นที่สูง จึงเหมือนเป็นเกาะที่ถูกน้ำล้อมรอบตัดขาดจากภายนอก คุณหญิงสุดารัตน์ กำชับ ส.ส. ในพื้นที่เร่งจัดหาน้ำสะอาดและซ่อมเสาร์ไฟฟ้า พร้อมทั้งฝากเตือนชาวบ้านอย่าแช่น้ำนาน ป้องกันโรคน้ำกัดเท้าและโรคฉี่หนู ระหว่างทางได้พูดคุยกับชาวบ้านที่ตากข้าวไว้หน้าบ้าน เพราะข้าวเปลือกเปียกน้ำ ชาวบ้านเข้ามากอดคุณหญิงและร้องไห้ คุณหญิงได้ให้กำลังใจให้สู้ และสัญญาว่าจะช่วยเหลือไม่ทิ้ง


สุดารัตน์ ลงพื้นที่น้ำท่วม ยโสธร

ช่วงบ่ายขึ้นเรือไปให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านทรายงาม ต.กุดกุง อ.คำเขื่อนแก้ว จำนวน 188 หลังคาเรือน จำนวน 605 คน ติดอยู่ในพื้นที่ดอนที่ถูกน่ำท่วมปิดล้อมจากภายนอก ต้องใช้เวลาเดินทางเข้าไปกว่า 20 นาที และเดินทางมาที่ศูนย์บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมวัดเชียงเพ็ง ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร มีชาวบ้านมายื่นหนังสือร้องเรียนตรวจสอบการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลของรัฐบาล จากนั้นจะเดินทางไปบ้านหนองแสง ต.หัวตะพาน อ.หัวตะพาน และบ้านนาอุดม ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำตอนนี้หนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทางคณะเดินทางลงมาอีสานใต้จะพบว่าน้ำที่จะไหลออกโขงที่โขงเจียม จ.อุบลราชธานี มารวมกันอยู่ตรงอีสานใต้ โดยเฉพาะจังหวัดยโสธรที่มาลงพื้นที่วันนี้พื้นที่นาถูกน้ำท่วมเกือบหมด เหลือเพียงประมาณ 20% ที่จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ ตนลงมาให้กำลังใจชาวบ้าน พวกเขายิ้มทั้งน้ำตา คือดีใจที่เรามาเยี่ยม อุตส่าห์เตรียมผ้าขาวม้ามาต้อนรับและให้กำลังใจเราให้สู้ต่อไปแทน แต่พอเข้าไปกอดหรือจับตัวชาวบ้านก็ร้องไห้เพราะเครียดและเสียใจกับอนาคตที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า เพราะหลังจากภัยแล้งและน้ำท่วมต่อเนื่องกันภายในเวลา 3 สัปดาห์ ชาวบ้านหมดเงิน หนี้สินเพิ่ม แต่ต้องใช้เงินซ่อมบ้านและซื้อข้าวของใหม่แทนที่ที่ถูกน้ำพัดไป ทั้งยังไม่มีข้าวกิน ขณะที่ข้าวราคาจะพุ่งสูงขึ้น เรียกว่าชาวบ้านกำลังเครียดกับชีวิตหลังน้ำลด

"ขอเรียกร้องให้รัฐบาลตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไป และรวบรวมงบประมาณมาจ่ายชดเชยความเสียหายจากภัยแล้งและน้ำท่วมให้เร็วที่สุดไร่ละ 2,000-3,000 บาท อย่าเกินเดือนหน้า เพื่อให้ชาวบ้านมีเงินทุนเตรียมทำนาปรัง ส่วนระยะสั้นคืออยากให้รัฐบาลดูแลสุขภาพจิตของชาวบ้านและป้องกันโรคติดต่อที่เกิดจากน้ำท่วมขัง เช่นโรคฉี่หนู เพราะชาวบ้านเคยชินกับการเดินเท้าเปล่าในน้ำ พร้อมทั้งระดมหน่วยงานซ่อมถนน ซ่อมแซมอาคาร และสะพาน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มาให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างขันแข็ง และเต็มกำลัง" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

สุดารัตน์ ลงพื้นที่น้ำท่วม ยโสธรสุดารัตน์ ลงพื้นที่น้ำท่วม ยโสธรสุดารัตน์ ลงพื้นที่น้ำท่วม ยโสธรสุดารัตน์ ลงพื้นที่น้ำท่วม ยโสธรสุดารัตน์ ลงพื้นที่น้ำท่วม ยโสธรสุดารัตน์ ลงพื้นที่น้ำท่วม ยโสธร