พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 และการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อรับมือกับการระบาด โดยประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มแข็งเพื่อยับยั้งการระบาด จากความร่วมมือกันอย่างจริงจังของทุกภาคส่วน จนส่งผลให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมีแนวโน้มที่ดีขึ้น 

อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังคงมาตรการดังกล่าวต่อไป และพร้อมร่วมมือกับอินเดียด้านยาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา พร้อมยืนยันจะดูแลชาวต่างชาติในไทยอย่างดีที่สุด 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมที่อินเดียดำเนินมาตรการอย่างรอบด้าน เด็ดขาด ในการรับมือกับการระบาดครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่า ภายใต้การดูแลของนายกรัฐมนตรีอินเดีย สถานการณ์จะอยู่ภายใต้การควบคุม ตลอดจนชื่นชมบทบาทของอินเดียที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในด้านยาซึ่งอินเดียมีศักยภาพสูง ในการร่วมมือแก้ปัญหาระดับภูมิภาคมีการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ และการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคโควิด-19 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อหาทางออกสำหรับวิกฤตครั้งนี้ ซึ่งกลไกของอาเซียนจะเป็นช่องทางขยายความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับอินเดียต่อไป พร้อมเชื่อมั่นหากทุกประเทศร่วมมือกัน จะสามารถรับมือกับวิกฤติการณ์ครั้งนี้ได้

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอินเดีย ชื่นชมบทบาทของรัฐบาลไทยที่สามารถควบคุมตัวเลขผู้รับเชื้อได้ในระดับที่ส่งผลดีต่อแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อ จึงขอให้ไทยร่วมมือกับอินเดียเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 เพราะสถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อด้านสุขภาพ และเศรษฐกิจอย่างมาก เป็นความท้าทายที่สำคัญ จึงหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว และขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ดูแลคนอินเดียที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทย ขณะที่นายกรัฐมนตรีขอบคุณทางการอินเดียที่ดูแลคนไทยอย่างดีและช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งกลับประเทศ 

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้อินเดียพิจารณาไม่ให้มาตรการล็อกดาวน์ มีผลกระทบต่อการขนส่งยา เวชภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากอินเดียเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยาที่สำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอินเดียได้ให้คำมั่นพร้อมร่วมมือดูแลการส่งยาให้ไทยเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองประเทศ และยืนยันที่จะมีความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นทางเศรษฐกิจ เพื่อฟื้นฟูพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจร่วมกันเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นภายหลังการระบาดของโควิด -19