นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ขอหารือกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคจะสามารถร่วมดีเบตและลงพื้นที่ช่วยหาเสียงได้หรือไม่

"ทราบแต่ข่าวว่าจะมีหนังสือขอหารือเรื่องนายกฯ จะร่วมดีเบตได้หรือไม่ ได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้วแจ้งว่าหนังสือยังมาไม่ถึง ถ้าได้รับแล้ว กกต.จะได้พิจารณาไปตามกรอบอำนาจและหน้าที่" นายอิทธิพร กล่าว

ประธาน กกต.กล่าวว่า ตามกรอบกฎหมายที่ กกต.กำหนดไว้ว่าหัวหน้าพรรค สมาชิกพรรค และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี สามารถร่วมการดีเบตที่ กกต.จัดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ขอปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวไปก่อนล่วงหน้า

"ขอตอบไปตามกรอบหน้าที่ของ กกต.ยังไม่ขอตอบในเรื่องที่เป็นความเห็นส่วนตัว ขอให้ออกมาเป็นมติ กกต.จะดีกว่า...กกต.คงไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน เพราะต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง"นายอิทธิพร กล่าว

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีสถานะเป็นหัวหน้า คสช.จะสามารถหาเสียงได้หรือไม่นั้น ประธาน กกต.กล่าวว่า ยังพูดไม่ได้เช่นกัน คงต้องให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาก่อน สำหรับความคืบหน้าของการตรวจสอบกรณี พปชร.จัดงานเลี้ยงระดมทุนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติของผู้บริจาค หลังจากสำนักงาน กกต.ได้ขอให้ทางพรรคจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ตามกรอบเวลาที่กำหนดแล้ว ส่วนกรณีที่พรรครวมใจไทยยื่นคำร้องให้ยุบ 12 พรรคการเมืองนั้น ยังไม่ทราบ แต่การพิจารณาทุกเรื่องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง

ด้วย พล.อ.ประวิตร ปฎิเสธแสดงความเห็นต่อสถานการณ์ทางเมืองกรณีพรรคการเมืองท้าให้ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช) ร่วมวงดีเบต และไม่หนักใจที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณาคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีความเป็นห่วงเรื่องหน่วยงานมั่นคงดูแลพื้นปลอดภัยต่าง ๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็วินิจฉัยไป และไม่ต้องดูแลสถานการณ์อะไรเป็นพิเศษ ส่วนการจัดทำบัญชีรายชื่อการโยกย้ายนายทหารกลางปี ตอนนี้ยังไม่แล้วเสร็จ