นายกรัฐมนตรี ถึงกับใช้คำว่า “ขยะสังคม” เพื่อฉายภาพถึงศัตรูทางการเมืองของประเทศ เมื่อเห็นเป็น “ขยะ” เมื่อใด นัยของการกำจัดให้หมดไปยิ่งสูงขึ้น

สถานการณ์เช่นนี้ นำไปสู่ความพยายามอย่างหนักหน่วงเพื่อกำจัด “ก้าวหน้า-ก้าวไกล” ออกจากการเมืองไทย เป็นการกำจัดก่อนหน้าการเลือกตั้งใหญ่ที่ใกล้มาถึง

ฉับพลันที่จบสิ้นการเลือกตั้ง อบจ. และผลปรากฏว่า “อนาคตใหม่ (เดิม)” ไม่สามารถปักธงสีส้มในพื้นที่ใดได้ อย่างที่คาดกันไว้ก่อนหน้านี้ เป็นปัจจัยทั้งจากมนต์ขลังของความ “ใหม่” เริ่มเสื่อม ไปจนถึง “ภูมิทัศน์ทางการเมือง” ที่ต่างไปจากการเลือกตั้งใหญ่หนก่อน

ผลการเลือกตั้ง อบจ. เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ผู้มีอำนาจมั่นใจในการเดิมเกมส์เร็ว “เลือกตั้งท้องถิ่น” ที่เหลืออยู่ คือ “เทศบาล-อบต.-กทม./พัทยา”

ดังปรากฏเป็นมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 12 ม.ค. 2563 ที่เห็นสมควรให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ระดับ “เทศบาล”

กกต. เร่งรับลูกต่อทันที ด้วยการวางแพลนออกประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ. 2564 และกำหนดให้วันเลือกตั้งใหญ่เป็นวันที่ 28 มี.ค. 2564

หากผลการเลือกตั้งเทศบาล เป็นไปตามผลการเลือกตั้ง อบจ. นั่นคือ ไม่มีธงสีส้มปักแน่นในสมรภูมิใดได้

ยิ่งมีแนวโน้มสูงว่า เกมส์เร็วเลือกตั้ง อบต. จะปรากฎต่อเนื่องในอีก 3 เดือนถัดไป ตามด้วย การเลือกตั้ง กทม. และเมืองพัทยา ในอีก 3 เดือนถัดไป เป็นอันว่า ราวๆ เดือนเก้า – เดือนสิบของปี 2564 เกมส์การเลือกตั้งท้องถิ่น ก็สามารถปิดจบได้ทั้งประเทศ

ยิ่งหากได้ ผู้ว่าฯกทม. เป็น “บิ๊กแป๊ะ” สายตรง “2 ป.” ยิ่งทำให้เกมส์การเลือกตั้งท้องถิ่นปิดจบได้สวยงาม สมใจผู้มีอำนาจ

เป็นไปตามเป้าหมายการเดินเกมส์ 3 จังหวะของผู้มีอำนาจ : เลือกตั้งท้องถิ่น-ยุบสภาฯ-เลือกตั้งระดับชาติ เพื่อหวังกำจัด “ก้าวหน้า-ก้าวไกล” ออกจากการเมืองไทย

โดยมี “เกมส์อภิปรายไม่ไว้วางใจ” และจังหวะขัดกันในสภาฯ เป็นระยะ เป็นของคั่นเวลา

เปิดประเด็นอภิปราย 1 นายกฯ 3 รองนายกฯ 6 รัฐมนตรี ด้วยสำนวนร้อนแรง

“พลเอกประยุทธ์... บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม จริยธรรม ไร้ภาวะผู้นำ ไร้จิตสำนึกและความรับผิดชอบ มีพฤติการณ์ฉ้อฉล ทุจริต”

“การบริหารราชการแผ่นดินของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศทั้งระบบ เศรษฐกิจ สังคม และกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง”

ทว่าสำนวนอันร้อนแรงในกระดาษ จะเข้าข่าย “ล้มมวย-หาลำไพ่พิเศษ” เหมือนการอภิปรายหนที่แล้วหรือไม่ จำต้องจับตาต่อไป

ขนานไปกับเกมส์อภิปรายไม่ไว้วางใจ คือกระแสข่าวการตั้งพรรคใหม่ เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่ใกล้มาถึงในเร็ววันนี้

พรรคเพื่อไทย แถลงเมื่อวันก่อนแล้วว่า ยุทธศาสตร์ในเวลานี้ ไม่มีการแตกแบงค์ย่อย ถ้ามีการเลือกตั้ง ก็จะส่งครบทั้ง 350 เขต ทั่วประเทศ เป็นอันว่ายุทธศาสตร์ใหม่นี้ ได้ปิดประตูยุทธศาสตร์แบบ “ทษช.” ไปโดยปริยาย ประกอบกับเป็นการอาศัยปาก “เฉลิม อยู่บำรุง” ปฏิเสธความเกี่ยวพัน ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคใหม่ของคุญหญิงสุดารัตน์ที่อยู่ระหว่างเตรียมการ Kick off ในเร็ววันนี้

พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในสภาวะ “จมดิ่ง-เลือดไหล” ต่อเนื่อง ล่าสุด “วิฑูรย์ นามบุตร” ขุนพลพรรคสีฟ้าในภาคอีสานได้ตีจากพรรคไปเรียบร้อย โดยอ้างเหตุ “ไม่มีที่ยืน-ไม่มีตำแหน่งอะไรที่พรรคมอบให้” แม้ล่าสุดพรรคสีฟ้าจะลงนามตั้ง “สภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์” โดยดึงผู้มากบารมีหลายคนกลับสู่วงจรพรรค อาทิ “บัญญัติ-เดอะมาร์ค-ไตรรงค์-สุขุมพันธ์-อภิรักษ์” เพื่อเรียกเรตติ้ง และสะท้อนความเป็นปึกแผ่น ทว่าแนวโน้มนำความนิยมกลับสู่พรรค ยังเป็นของยาก เหตุจากผลงานที่แผ่วเบา และจุดยืนเชิงอุดมการณ์

พรรคพลังประชารัฐ อันเป็นพรรคเฉพาะกิจในการเลือกตั้งหนก่อน มีแนวโน้มว่าจะมีการแตกแบงค์ย่อยออกไปอีกหลายพรรค หลังปรากฏให้เห็นความยุ่งเหยิงเป็นระยะ กระแสข่าวว่ามีอย่างน้อยสองพรรคแล้ว

พรรคหนึ่งนำโดย “เดอะฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้มากบารมี-สายตรง 2 ป.

พรรรคหนึ่งนำโดย “เทามนัส-ผู้กองธรรมนัส” ผู้มากบารมี-มีจุดเชื่อมต่อที่แข็งแรงกับบ้านป่ารอยต่อ

อีกสองพรรคที่ลงสังเวียนมาก่อนแล้ว คือ พรรคกล้าของ “กรณ์” ที่มีข้อเสนอคมๆ ในทางเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึง พรรคไทยภักดีของ “หมอวรงค์” ที่มีจุดยืนชัดเจนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์-ตั้งมาต่อกรกับ “ก้าวหน้า-ก้าวไกล-ม็อบสามนิ้ว”

ปิดท้ายด้วย พรรคใหม่ของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่กำลังก่อตัว-เตรียมการในห้วงนี้ พร้อมแปลนนโยบายเพื่อ “คนตัวเล็ก” ระหว่างนี้มีกิจกรรมไม่หยุดในฐานะ “สถาบันสร้างไทย” โดยทุกๆ กิจกรรมจะมีเปิดตัวดาวดวงใหม่ทางการเมือง ขณะที่ปลายกุมภาฯ จะมีงานใหญ่เพื่อเปิดวิสัยทัศน์ว่าที่หัวหน้าพรรค งานนี้ทุ่มเท เข้มข้น สมคำพูดที่แว่วยินเสียงกันทั่วว่า “ตั้งใจให้เป็นพรรคสุดท้ายในชีวิตทางการเมือง”

ทั้งหมดนี้ วางอยู่บนบริบทที่ “นักเลือกตั้ง” ได้กลิ่น-ได้ยินสัญญาณ ขยับกระดานการเมือง บนกระดานการเมืองรอบใหม่นี้ ต้องลุ้นด้วยว่า “ก้าวหน้า-ก้าวไกล” ยังดำรงอยู่ถึงวันนั้นหรือไม่.