ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อไทย เปิดวาทะเด็ด อัดรัฐบาล-เผยความกลวงในอำนาจเผด็จการ

ในสภาวะการเมืองร้อนแรง ใต้ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจสังคมย่ำแย่ พรรคเพื่อได้รวบรวม 10 วาทะเด็ด ตลอดปี 2564 ส.ส.พรรคเพื่อไทย จากการชำแหละรัฐบาลปรสิตสู่การพิชิตรัฐบาลโอหังคลั่งอำนาจ โดยมีรายละเอียดดังนี้

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายเปิดโปงการทุจริตฉ้อฉล กระชากหน้ากากของพลเอกประยุทธ์และคณะ ที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทำร้ายประเทศชาติบั่นทอนประชาธิปไตย และคุกคามเสรีภาพของประชาชน พร้อมชี้ว่า

“รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เป็นได้เพียง ‘รัฐบาลปรสิต’ ที่กัดกร่อนอนาคตของประเทศและกลืนกินความฝันของประชาชน”

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน อภิปรายสรุปญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของพรรคฝ่ายค้าน เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ชี้ให้เห็นความบกพร่อง ผิดพลาด ล้มเหลว ซ้ำซากของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับประชาชนอย่างแสนสาหัส ไปจนถึงการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบอีกหลายกรณี

“ตอบก็ไม่ชัดเจน ชี้แจงก็ไม่ได้ ถ้าจะยุติก็ต้องเอาทรัพยากรธรรมชาติของเราไปแลกเพื่อปกป้องคุ้มครองความผิดของตัวเอง ชายชาติทหารน่าจะอายนะครับ ยอมเสียแผ่นดิน ชายชาติทหารยุคก่อนเขายอมเสียเลือดเนื้อเพื่อปกป้องแผ่นดิน แต่ชายชาติทหารชื่อประยุทธ์เอาแผ่นดินไปแลกกับชีวิตและเลือดเนื้อของตัวเอง โลกมันกลับตาลปัตร”

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรขณะนั้น ได้นิยามความล้มเหลวของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยการให้นิยาม ‘รัฐบาลโอหังคลั่งอำนาจ’ 

“สถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงวิกฤตโรคระบาด ที่คนไทยต้องเผชิญอย่างหนักหนาสาหัสเท่านั้น แต่วิกฤตเลวร้าย รุนแรง ตอกย้ำความทุกข์ของพี่น้องประชาชนคนไทยยิ่งกว่าโรคระบาด คือ วิกฤตผู้นำรัฐบาล ที่โอหัง คลั่งอำนาจ ไร้ประสิทธิภาพ และน่าละอาย ซ้ำร้ายในสถานการณ์ที่พี่น้องประชาชนทุกข์ยาก กลับปรากฎพฤติการณ์ลักษณะ ‘กอบโกยผลประโยชน์บนซากศพของพี่น้องประชาชน’ เป็นรัฐบาล ‘ที่กล้า ที่จะค้าความตาย’ ส่งมอบความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานให้กับประชาชน อย่างถ้วนหน้า โดยท่านไม่รู้สึกละอายต่อสิ่งที่กระทำไป

จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เจ้าของฉายา ‘รอยยิ้มประหาร’ จัดหนัก จัดเต็ม ฟาดตรงไปที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะกรณีการสั่งซื้อวัคซีนไม่มีคุณภาพ ไปยังเรื่องข้อครหาเรื่องเงินทอน และความรับผิดชอบต่อชีวิตประชาชนที่ต้องเดือดร้อน สูญเสีย

“การจัดซื้อ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด ระวังประชาชนจะสงสัยว่าท่านกำลังมอง ATK เป็น ATM หรือเปล่า มันต่างกันมากนะคะ ATK ใช้แยงจมูกตรวจโควิด แต่ถ้าท่านมองเป็น ATM คนอาจคิดว่าท่านจะกดเงินจากโครงการนี้หรือเปล่า”

ภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เป็นอีกคนที่ทำเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจสั่นสะเทือน ด้วยการสะท้อนปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ความยากลำบากของชาวนา ได้อย่างชัดเจนด้วยการเปรียบเทียบราคาข้าวกับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและราคาอาหารสัตว์ ที่สะท้อนสามัญสำนึกของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคน

“ตลอด 7 ปีเกษตรกรยิ่งทำยิ่งจน ยิ่งทำยิ่งเจ๊ง พี่น้องชาวนาต้องเผชิญกับปัญหาราคาข้าวถูกกว่าราคาอาหารสัตว์ ขณะที่ราคาข้าว 1 กิโลกรัมแลกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้เพียง 1 ซอง ราคาข้าวถูกกว่าอาหารสัตว์ อาหารหมูกิโลกรัมละประมาณ 20 บาท อาหารวัวกิโลกรัมละ 12 บาท แล้วพี่น้องเกษตรกรจะอยู่กันอย่างไร วันนี้ท่านทานข้าวหรือทานอาหารสัตว์ ถึงทำเป็นไม่รู้เรื่องความทุกข์ของพี่น้องประชาชน”

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ได้อภิปรายสรุปยืนยันพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน ซึ่งไม่เพียงรัฐบาลได้กู้เงินไปแล้วแต่ไม่บริหารจัดการสถานการณ์วิกฤตได้ แต่ยังไร้ความสามารถ จนทำให้พี่น้องประชาชนยากลำบากไปทั่วประเทศ และ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านที่มีรายละเอียดเพียงแค่ 5 หน้า เป็นสิ่งที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง

“กระดาษ 5 หน้า (พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท) ไร้ค่าอย่างมาก เสนอมาอย่างนี้ ไม่เห็นหัว ไม่เห็นหน้าประชาชน คนที่ส่ง พ.ร.ก.เงินกู้ฉบับนี้มาให้สภาพิจารณามีจิตสำนึกบ้างไหม”

ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส. เชียงใหม่ หญิงเหล็กฝ่ายประชาธิปไตย เสนอให้กรรมาธิการงบประมาณ ตัดงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ลงอีก 7% ในส่วนที่ใช้ซื้ออาวุธ ยานพาหนะและอื่นๆ ในสถานการณ์ที่ประเทศต้องการงบประมาณในการแก้ไขวิกฤตโควิด-19 มากกว่าถูกนำไปใช้ซื้อยุทโธปกรณ์มาปราบปรามประชาชนที่แสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย

“อุปกรณ์การแพทย์ไม่เคยพอ อุปกรณ์ คฝ. ไม่เคยขาด ประชาชนไปเรียกร้องวัคซีนแต่กลับได้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ดิฉันขอวิงวอน สภาอย่าเป็นเครื่องมือให้ตำรวจปราบปรามประชาชน”

สกุณา สาระนันท์ ส.ส. สกลนคร อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2565 ชำแหละการบริหารประเทศแบบผิดทิศผิดทางของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา การจัดสรรงบประมาณผิดพลาด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศไทยได้ จนเกษตรกรกระดูกสันหลังของชาติต้องตกอยู่ในชะตาของ ‘เกษตรยถากรรม’

“นายกฯ ไม่เคยสงสัยหรือว่างบประมาณทุกปีถูกใช้จนหมด แต่ทำไมบ้านยังไม่เสร็จ แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ประโยชน์ไม่เคยเกิดกับประชาชน”

สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) อภิปรายในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ..... ที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้าชื่อร่วมกันเสนอ โดยเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภา ทั้งที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน ที่มักพูดเสมอว่าเคารพประชาชน ก็ควรจะให้โอกาสประชาชน ด้วยการลงมติรับหลักการกฎหมายที่เสนอจากประชาชนให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภา

“ถ้าเราเคารพน้ำใจประชาชนจริงๆ ก็รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อให้โอกาสประชาชน ได้ตัดสินด้วยการลงประชามติ”

ขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี ได้อภิปรายให้เห็นคุณูปการของร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภารับร่างที่เสนอโดยประชาชน แม้สุดท้ายรัฐสภาโดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. จะลงมติไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ ขจิตร ชัยนิยม ยกย่องเป็นอย่างยิ่งว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ชาญฉลาดและกล้าหาญ ส่วนการยึดอำนาจเป็นเรื่องน่าละอาย เพราะทหารอยู่ได้เพราะภาษีประชาชน แต่กลับเอาอำนาจ เอาปืนที่มาจากภาษีประชาชนมายึดอำนาจจากประชาชน

การเขียนกฎหมายให้อำนาจกับประชาชนสามารถมีสิทธิในการปกป้องประชาธิปไตยและต่อต้านการรัฐประหารได้ ถือเป็นเกียรติยศของประชาชน ต้องยกย่องผู้ที่เสนอกฎหมายนี้ หากสามารถผลักดันจนผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้จะทำให้ประเทศสูงขึ้นและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นแน่นอน

“การเขียนกฎหมายให้อำนาจกับประชาชน มีสิทธิในการปกป้องประชาธิปไตยและต่อต้านการรัฐประหารได้ ถือเป็นเกียรติยศของประชาชน ต้องยกย่องผู้ที่เสนอกฎหมายนี้”