ด้วยอุปนิสัยของคนจีนที่เป็นผู้บริโภคที่นิยมสินค้าที่สดใหม่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของอาหาร ยิ่งวัตถุดิบในการประกอบอาหารที่สดใหม่ยิ่งเป็นที่ถูกใจผู้บริโภคชาวจีนยิ่งนัก ดังนั้นเมื่อเข้าไปในซูเปอร์มาเก็ตต่างๆ ในจีน จึงไม่แปลกใจหากเราจะเห็นว่าจะมีตู้โชว์สัตว์ทะเลที่ยังคงแหวกว่ายอยู่ในตู้กระจกราวกับเดินอยู่อะควาเรียม รวมไปถึงผักสดต่างๆ ที่ต่างมีลักษณะที่สดใหม่อยู่เสมอ นั่นคือตลาดสินค้าอาหารในโลกออฟไลน์ของจีน

(โซนอาหารทะเลสดในซุปเปอร์มาร์เก็ตของอาลีบาบา 'เหอ หม่า')

สำหรับตลาดภายในประเทศจีนเองแล้ว การเลือกซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหารไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในโลกออฟไลน์ตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือในตลาดสดเท่านั้น การสั่งซื้อวัตถุดิบในโลกออนไลน์เพื่อนำไปประกอบอาหารก็เป็นที่นิยมของคนจีนเช่นกัน จึงทำให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซของจีนต่างต้องปรับตัวในระบบการขนส่งสินค้า

JD.com บริษัทอีคอมเมิร์ชรายใหญ่ของจีนรายงานว่า 'ปัจจุบันผู้บริโภคในจีนหันมาสั่งสินค้าสดผ่านระบบอีคอมเมิร์ซเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2017 มีอัตราการเติบโตของการสั่งอาหารสดผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 59 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 140 ล้านหยวน เมื่อเทียบกับอัตราที่สำรวจได้ในปี 2016 และทางJD คาดว่าในอนาคตการขนส่งสินค้าอาหารสดจะเติบโตกว่า 300 เปอร์เซ็นต์'

ในอนาคตรถไฟความเร็วสูงจะช่วยให้สามารถส่งสินค้าต่างๆที่ถูกสั่งผ่านระบบอีคอมเมิร์ซของจีนซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในจีน รวมไปถึงอาหารทะเลสดจากพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของจีนไปยังปักกิ่งได้ภายในหนึ่งวันเท่านั้น

เพราะการแข่งขันในเรื่องของการขนส่งสินค้าในจีนทีี่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่า JD จะเลือกใช้บริการขนส่ง 'อาหารสด' อย่าง 'เห็ดมัตสึทาเกะ' ซึ่งเป็นเห็ดที่มีราคาแพงและถือได้ว่าเป็น 'สินค้าหรู' ด้วยการใช้ 'รถไฟความเร็วสูง' ในการขนส่งจากเมืองคุนหมิงในมณฑลยูนนาน ไปสู่เมืองต่างๆ หกเมืองหลักของจีนอันได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว อู่ฮัน นานจิง และเฉิงตู ได้ภายใน 48 ชั่วโมงตามแต่ระยะทางของเส้นทาง

ทาง JD เปิดเผยว่า การบริโภคและการสั่งซื้ออาหารสดผ่านแฟลตฟอร์มออนไลน์ของ JD.com มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และด้วยเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ครอบคลุมเกือบทั่วทั้งประเทศจีน ทำให้ JD.com เลือกใช้รถไฟความเร็วสูงในการขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคภายในระยะเวลาที่กำหนดไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ ไม่ว่าต้นทางของสินค้าจะอยู่ในพื้นไหนของจีนก็ตาม และที่สำคัญการขนส่งด้วยวิธีนี้จะทำให้สินค้ายังคงความสดใหม่เมื่อถึงมือผู้บริโภคได้

(เห็ดมัตสึทาเกะที่ถูกบรรจุพร้อมส่งไปยังพื้นที่ต่างด้วยรถไฟความเร็วสูง /ภาพจากJD.com)

อย่างไรก็ตาม การใช้รถไฟความเร็วสูงในการขนส่งสินค้าของจีนไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่ในช่วงเทศกาลช็อปปิงที่สำคัญอย่างวันคนโสดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว (11.11.2015) ทางบริษัทรัฐวิสาหกิจรถไฟจีน CRC ร่วมมือกับบริษัทอีคอมเมิร์ซอย่าง 'อาลีบาบา' ห้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางปักกิ่ง - เซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะใช้เวลาในการขนส่งสินค้าต่างๆเ พียง 4.30 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งการขนส่งสินค้าด้วยรถไฟความเร็วสูงนี้จะทำให้สินค้าถึงมือผู้รับภายในไม่เกิน 3 วัน ไม่ว่าจะผู้ส่งและผู้รับสินค้าจะอยู่ไกลกันคนละฝั่งของประเทศก็ตาม

เมื่อปีที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ CRRC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถไฟความเร็วสูงของจีนระบุว่า ทางบริษัทกำลังพัฒนาเทคโนโลยีการขนส่งทางรถไฟ รวมไปถึงการสร้างรถไฟหัวกระสุนส่งสินค้ารุ่นใหม่ที่สามารถวิ่งได้ด้วยระยะทาง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันการขนส่งสินค้าทางรถไฟของจีนจะใช้ความเร็วอยู่ที่ 120 -160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งความเร็วดังกล่าวไม่สามารถรองรับการเติบโตของการขนส่งสินค้าในจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้ โดยเฉพาะความต้องการในการขนถ่ายสินค้าขึ้นลงในแต่ละพื้นที่ที่ต้องการอาศัยความรวดเร็วในการจัดส่ง

อย่างไรก็ตาม หากรถไฟหัวกระสุนสำหรับขนส่งสินค้าได้รับการพัฒนาขึ้น ทาง CRRC คาดว่า ในอนาคต รถไฟความเร็วสูงจะช่วยส่งสินค้าต่างๆ ที่ถูกสั่งผ่านระบบอีคอมเมิร์ซซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในจีน รวมไปถึงอาหารทะเลสดจากพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของจีนไปยังปักกิ่งได้ภายในหนึ่งวันเท่านั้น

ปัจจุบัน จีนมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงรวมเป็นระยะทางกว่า 22,000 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่ยาวที่สุดในโลก และภายในปี 2020 จีนจะขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 กิโลเมตร และในปี 2030 จะขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูงให้ครอบคลุมถึง 45,000 กิโลเมตร เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่เมืองต่างๆ ในจีนให้เข้าถึงการคมนาคมขนส่งมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ในจีนที่ใช้รถไฟความเร็วสูงในการขนส่งสินค้า ในปี 2012 ฝรั่งเศสและเยอรมนีเปิดตัวรถไฟขนส่งสินค้าที่สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปแล้วเช่นกัน