เว็บไซต์นิวส์วีคและเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ รายงานคดีที่ตำรวจไทยจับกุมนายเคนเนธ วิกโก อัลเบิร์ตเซน ชาวอเมริกันวัย 66 ปี ซึ่งพำนักอยู่ที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยหญิงชาวเมียนมา 1 ราย ในข้อหาร่วมกันค้าประเวณี สืบเนื่องจากกรณีที่นายอัลเบิร์ตเซนได้เปิดเฟซบุ๊กเพจชื่อว่า Burmese Border Chicks For Hire เพื่อดำเนินการจัดหาหญิงบริการจากเมียนมาเข้ามาให้ลูกค้าในไทย รวมถึงจัดทัวร์เพื่อให้ลูกค้าซื้อบริการทางเพศในเมียนมา ในราคาครั้งละ 6,500 บาท
การจับกุมเป็นการล่อซื้อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้รับเบาะแสจากผู้ที่เคยเห็นการโฆษณาบริการผ่านสื่อออนไลน์ของอัลเบิร์ตเซน และหญิงชาวเมียนมา ซึ่งถูกจัดหาและพาข้ามฝั่งชายแดนอำเภอแม่สายมายังไทย มีจำนวน 2 คน อายุ 18 และ 25 ปี ซึ่งอัลเบิร์ตเซนสามารถดำเนินธุรกิจสีเทาเช่นนี้ได้ เป็นเพราะเขาอยู่อาศัยในเมืองไทยมานานกว่า 10 ปีด้วยวีซ่าผู้เกษียณอายุ
นอกจากนี้ สื่อต่างประเทศรายงานด้วยว่าการค้าประเวณีเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่สังคมไทยและผู้บังคับใช้กฎหมายจำนวนมากเลือกที่จะหลับตาข้างเดียว ทำให้ธุรกิจสีเทาเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป และหลายครั้งธุรกิจที่ติดป้ายว่าเป็นร้านนวดก็มีบริการค้าประเวณีอยู่ด้านในเช่นกัน
ปัจจัยหนึ่งที่หล่อเลี้ยงให้ธุรกิจสีเทาเหล่านี้ดำเนินอยู่ได้ในสังคมไทย เกิดจากวัฒนธรรมการทุจริตและรับเงินสินบนแลกเปลี่ยนกับการมองข้ามธุรกิจผิดกฎหมาย และอีกปัจจัยหนึ่งคือความก้าวหน้าของระบบโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยที่มีความก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้การประกอบธุรกิจค้าประเวณีไม่จำเป็นต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่ง แต่ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ค้าบริการและผู้ซื้อบริการ
ขณะเดียวกัน ผู้หญิงจำนวนมากจากเมียนมาและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อาจอพยพย้ายถิ่นฐานมายังเมืองไทยด้วยเหตุผลด้านเศรษฐกิจ โดยคาดหวังว่าจะได้รับโอกาสทางอาชีพการงานที่ดีขึ้น แต่หญิงสาวจำนวนไม่น้อยถูกชักชวนหรือไม่ก็ถูกล่อลวงเข้าสู่วังวนของขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้แรงงานและการค้าประเวณี
ก่อนหน้านี้ องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเคยเตือนว่าประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มชาวต่างชาติที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็ก รวมถึงลูกค้าของขบวนการค้าประเวณีและค้ามนุษย์ที่เข้ามาซ่อนตัวเพื่อหลบหนีคดี
Photo by Viliman Viliman on Unsplash
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: