เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ธีรชัย ระวิวัฒน์ อดีต นศ.คณะรัฐศาสตร์ มธ. ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม CARE และ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก อธิบายเหตุผล "ทำไมผมถึงเลือกพรรคเพื่อไทย" โดยชี้เห็นถึงนโยบายของพรรคที่ตอบโจทย์กับประเทศไทยมากที่สุกในช่วงเวลานี้ โดยมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
ทำไมผมถึงเลือกเพื่อไทย ?
เป็นคำถามที่ผมถูกถามบ่อยมาก ว่าทำไมต้องเพื่อไทย ทำไมไม่ไปพรรคที่ถูกมองว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่หล่ะ คำตอบที่ผมมักขึ้นต้นเสมอก่อนอธิบายเหตุผล คือ
"พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ตอบโจทย์ผมและประเทศไทยตอนนี้มากที่สุด"
1.นโยบายทำได้จริง ไม่ใช่เพ้อฝัน แต่คือฝันที่ทำได้จริง
เพื่อไทยอยู่มาได้ถึงวันนี้ตั้งแต่ไทยรักไทย หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดคือ "นโยบายทำได้จริง" และสังคมก็เชื่อว่าทำได้แน่ เช่น เรื่องค่าแรง คิดดูว่าทุกพรรคเสนอขึ้นค่าแรงหมด จะ400 450 500 หรือเท่าไหร่ คนก็ยังเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่พอเพื่อไทยประกาศ 600 บาทในปี 2570 สังคมต่างออกมาพูดถึงอย่างกว้างขวาง เพราะอะไร เพราะสังคมเชื่อว่า เพื่อไทยทำได้จริง ต่อให้เพื่อไทยเสนอ 1,000 บาท สังคมก็จะเชื่อทำได้จริง แต่ถ้าพรรคอื่นเสนอ 600 เหมือนกัน คนก็จะเฉยๆ เพราะไม่เชื่อว่าทำได้ นั่นคือ จุดแข็งของเพื่อไทย และผมเชื่อว่า เพื่อไทยจะไม่ทำลายจุดแข็งของตัวเองเด็ดขาด หากเพื่อไทยเสนอนโยบายไปแล้วทำจริงไม่ได้ ก็จะไม่มีเพื่อไทยในสมการทางการเมืองในรอบต่อไป ดังนั้น ทุกนโยบายที่ประกาศไป เช่น ดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท, ประกันรายได้ครัวเรือนละ 20,000 บาท, เงินเดือนป.ตรี/ข้าราชการ 25,000 บาท, สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง, ยกเลิกเกณฑ์ทหาร, ปราบยาเสพติดเด็ดขาดใน 1 ปี, ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค, รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, รถไฟความเร็วสูง, ปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ และอื่นๆอีกมากมาย จะไม่ใช่คำใหญ่ขายฝัน แต่ "ทุกนโยบายเพื่อไทยทำได้จริง"
2.ทีมเพื่อไทย ผสานความเก๋า+ความสด
เพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ที่รวมคนโคตรเก่งไว้ทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นเก๋า(ไทยรักไทย-พลังประชาชน) รุ่นกลาง(เพื่อไทยสมัยยิ่งลักษณ์) และรุ่นสดใหม่ ซึ่งแต่ละคนคือส่วนผสมที่ลงตัวของกันและกัน เราจึงพร้อมในทุกด้าน เช่น
- เรามียอดกุนซือเจ้าของฉายา "มันสมองแห่งชาติ" อย่าง พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนโยบายพลิกประเทศ เช่น นโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าสมัยชาติชาย นโยบายเศรษฐกิจคู่ขนาน (Dual Track) สมัยทักษิณ รวมถึงนโยบายThailand 2020 (รถไฟความเร็วสูง) สมัยยิ่งลักษณ์
- เรามีทีมเศรษฐกิจอย่าง ศุภวุฒิ สายเชื้อ, กิตติรัตน์ ณ ระนอง, พิชัย นริพทะพันธุ์ โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ในฐานะประธานทีมเศรษฐกิจ ที่ทุกคนยอมรับว่าทีมนี้ คือมือเก๋าทางเศรษฐกิจ ไหนจะคนรุ่นใหม่อย่าง เผ่าภูมิ โรจนสกุล, จักรพล ตั้งสุทธิธรรม, กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ และอื่นๆอีกมาก
- เรามีทีมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ทำงาน "นโยบายต่างประเทศเพื่อเศรษฐกิจ" โดย 2 อดีตผู้แทนการค้าไทย เช่น ปานปรีย์ มหิทธานุกร, นลินี ทวีสิน และจะนำทีมโดย เศรษฐา ทวีสิน
- เรามีทีมนโยบายด้านเกษตรอย่าง วิสุทธิ์ ไชยณรุณ, หมอชัย วัชรงค์ ฯลฯ
- เรามีทีมนโยบายด้านซอฟต์พาวเวอร์ อย่าง จิราพร สินธุไพร, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ฯลฯ
- เรามีทีมมือกฎหมาย อย่าง ชูศักดิ์ ศิรินิล, ชัยเกษม นิติสิริ, นพดล ปัทมะ ฯลฯ
- เรามีนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, วรชัย เหมะ, จาตุรนต์ ฉายแสง ฯลฯ
- เรามีทีมผู้แทนราษฎรที่ผูกพันและสะท้อนเสียงประชาชนในพื้นที่อย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด อย่าง สุทิน คลังแสง, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์, จิรายุ ห่วงทรัพย์, สุรชาติ เทียนทอง, ฯลฯ
และทีมอื่นๆอีกมากมาย นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไม "นโยบายเพื่อไทยทำได้จริง" เพราะเรามีทีมคุณภาพที่ "ทำเป็น" เคยทำมาแล้วและประสบความสำเร็จมาแล้ว ไหนจะแคนดิเดตทั้ง 3 ทั้งแพทองธาร ทั้งเศรษฐา ทั้งชัยเกษม ทั้ง 3 คนพร้อมที่จะนำทีมเพื่อไทยทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อคนไทยทุกคน ONE TEAM FOR ALL THAIS
3.อุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตยไม่เคยเปลี่ยนแปลง
พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยมาโดยตลอด และเพราะเรายึดมั่นชัดเจนไม่เคยเปลี่ยนแปลง เราจึงถูกยุบพรรค 2 รอบ รัฐประหาร 2 ครั้ง แต่ไม่ว่าจะทุบทำลายเพื่อไทยยังไง จะถีบให้ล้มยังไง เพื่อไทยก็ยังลุกขึ้นสู้ใหม่ได้ทุกรอบ เพราะต่อให้เราถูกถีบจนล้ม เราก็ล้มบนตักของประชาชนและประชาชนจะดันหลังให้เราลุกขึ้นสู้ต่อทุกครั้ง เพราะพรรคเพื่อไทยคือเพื่อนตายที่ร่วมต่อสู้กับประชาชนเสมอมา ตลอดการต่อสู้ของประชาชน ย่อมมีคนเพื่อไทยร่วมด้วยเสมอมาไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวน้อย และไม่มีใครจะสามารถแยกการต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยออกจากการต่อสู้ของประชาชนได้
บางคนพยายามบอกว่า เพื่อไทยเชื่อถือไม่ได้ จะไปรวมกับฝ่ายตรงข้าม เพื่อไทยไม่ใช่ฝ่ายประชาธิปไตย หากเพื่อไทยเป็นแบบนั้นจริง ฝ่ายตรงข้ามเขาจะยุบเราทำไม 2 รอบ จะรัฐประหารเราทำไม 2 ครั้ง จะออกกฎหมายสกัดเราทุกทางไปทำไม เขาใช้เพื่อไทยเป็นเครื่องมือไม่ดีกว่าหรือ แต่เพราะเพื่อไทยไม่ยอมอ่อนตาม เพราะเพื่อไทยไม่ยอมที่จะยืนอยู่ตรงข้ามกับประชาชน เพราะเพื่อไทยยืดหยัดในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ฝ่ายตรงข้ามจึงต้องทำร้ายทำลายเพื่อไทยตลอดมา
เพื่อไทยยังคงเป็น "พรรคแกนนำหลักฝ่ายประชาธิปไตย" มาโดยตลอดและยังเป็นอยู่ในปัจจุบัน แน่นอนว่าเรากำลังต่อสู้กันระหว่าง 2 ขั้วอุดมการณ์ และพรรคที่เป็นแม่ทัพใหญ่คนสำคัญ พรรคที่ใหญ่มากเพียงพอ พรรคที่มีศักยภาพมากที่สุด ที่จะชนะการต่อสู้เพื่อให้ฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ก็คือ พรรคเพื่อไทย จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องแลนด์สไลด์ บางคนบอกว่า เลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยพรรคไหนก็เหมือนกัน เดี๋ยวก็ไปรวมกันในสภาตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยอยู่ดี ป่าวเลย ถ้าปล่อยให้คะแนนกระจัดกระจายตัดคะแนนกันเอง มันจะไปไม่ถึงสภา แต่มันจะพากันแพ้ตั้งแต่ในคูหาเลือกตั้ง ดังนั้น ถ้าอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ จึงต้องเลือกเพื่อไทยให้ชนะขาดเพื่อเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล
3 เหตุผลสำคัญนี้ เพราะนโยบายที่ทำได้จริง เพราะมีทีมงานที่มีคุณภาพและประสบการณ์ เพราะยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยไม่เปลี่ยนแปลง ผมจึงเลือกเพื่อไทยและเชื่อมั่นในเพื่อไทย
8-9 ปีที่ผ่านมา เราเจ็บช้ำมามากพอแล้ว เราเจอวิกฤตมามากเกินพอแล้ว และพรรคการเมืองเดียวที่มีความสามารถมากพอ มีประสบการณ์มากพอ มีความรู้มากพอ และมีศักยภาพมากพอ ที่จะดึงคนไทยออกจากหล่มความยากจนได้สำเร็จ คือ "พรรคเพื่อไทย"
เรื่องบ้านเมืองเป็นเรื่องจริงจัง ชีวิตคนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เราเห็นวันที่ประเทศวิกฤตจริงๆ เห็นวันที่มีคนตายข้างถนนจริงๆ พอได้แล้ว ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่จะพร้อมเข้ามาฟื้นฟูประเทศมากไปกว่านี้แล้ว เวลานี้ ไม่ใช่เวลา "ฝึกงาน" แต่เป็นเวลาของ "นักบริหารมืออาชีพ" นั่นก็คือ "พรรคเพื่อไทย"