ไม่พบผลการค้นหา
กรีซหลุดพ้นจากโครงการช่วยเหลือทางการเงินแล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปจะยังคงจับตาการบริหารจัดการนโยบายเศรษฐกิจของกรีซต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้กรีซเปลี่ยนนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจที่ได้ตกลงไว้กับเจ้าหนี้

มาตรการรัดเข็มขัดทางเศ���ษฐกิจของกรีซประสบความสำเร็จ จนสามารถเลิกรับความช่วยเหลือจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี แต่นักวิเคราะห์ชี้เส้นทางไปสู่อนาคตที่สดใสยังอีกยาวไกล

สื่อต่างประเทศรายงานว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจที่กรีซหลุดพ้นจากการรับเงินช่วยเหลือจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หลังจากที่ผ่านมา รัฐบาลกรีซถูกบังคับให้ต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดหลายอย่างตามเงื่อนไขของการรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าว จนประชาชนชาวกรีซไม่พอใจ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ ตัดลดเงินบำนาญ

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจกรีซจะฟื้นขึ้นมาอย่างช้าๆ ในช่วงหลายปีมานี้ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจกรีซก็ยังน้อยกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถึงร้อยละ 25

นับตั้งแต่ปี 2010 เจ้าหนี้ของกรีซได้อนุมัติเงินช่วยเหลือมากกว่า 260,000 ล้านยูโรให้รัฐบาลกรีซ ซึ่งถือเป็นการกู้ยืมเงินก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเงินโลก โดยครั้งสุดท้าย กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรปหรือ ESM ให้เงิน 61,900 ล้านยุโรปในช่วงเวลา 3 ปี เพื่อช่วยรัฐบาลกรีซปฏิรูปเศรษฐกิจและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธนาคาร

กองทุน ESM เป็นกองทุนประเทศสมาชิกยูโรโซนที่ตั้งขึ้นมาแก้วิกฤตการเงินให้กับกรีซ ซึ่งนายมาริโอ เซนเตโน ประธาน ESM เปิดเผยว่า ที่จริงแล้ว ESM ยังมีเงินช่วยเหลือได้อีก 27,000 ล้านดอลลาร์ แต่กรีซสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เงินช่วยเหลืออีกต่อไป นอกจากนี้ นายเซนเตโนยังกล่าวขอบคุณชาวกรีกที่ร่วมมือกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ

แม้จะหลุดพ้นจากโครงการช่วยเหลือทางการเงินแล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปก็จะยังคงจับตาการบริหารจัดการนโยบายเศรษฐกิจของกรีซต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้กรีซเปลี่ยนนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจที่ได้ตกลงไว้กับเจ้าหนี้

ศาสตราจารย์เควิน เฟเธอร์สโตน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยด้านกรีซและไซปรัส เฮลเลนิก ออบเซอร์เวทอรีของมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (LSE) แสดงความเห็นว่า การตกลงเข้าร่วมโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซได้ช่วยรักษายูโรโซน เพราะการต้องทนกับมาตรการรัดเข็มขัดได้ป้องกันไม่ได้กรีซออกจากการเป็นสมาชิกอียู ทั้งที่เงื่อนไขในการรับเงินช่วยเหลือรอบสุดท้ายในปี 2015 เป็นเงื่อนไขที่ให้ทำกรีซต้องปรับตัวมากและเจ็บปวดมาก การที่กรีซต้องผ่านมาตรการรัดเข็มขัด วิกฤตเศรษฐกิจที่หนักหน่วงไปพร้อมๆ กับการประคับประคองสังคมและประชาธิปไตยต่อไปได้ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ากรีซเป็นประเทศที่เข้มแข็งมาก

ด้านมุจตาบา ราห์มาน กรรมการบริหารฝ่ายยุโรปของยูเรเชียกรุ๊ปมองว่า โครงการช่วยเหลือกรีซระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาช่วยให้กรีซเข้าถึงตลาดทุนได้ แต่โครงการนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างอีกหลายเรื่อง แม้กรีซจะทำตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจกรีซให้ดีขึ้นได้

เมื่อเดือนก่อน นางคริสตีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟได้ออกมาเตือนว่า หนี้สาธารณะของกรีซน่าจะยังสูงต่อไปอีก 10 ปี รัฐบาลกรีซยังต้องปรับปรุงระบบการเก็บภาษี กำจัดพนักงานรัฐที่คุณสมบัติไม่เพียงพออย่างจริงจัง และปรับปรุงแผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน

ที่มา: BBC/ Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: