พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยวานนี้ (27 พ.ค.) หลังเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อสอบปากคำนางวรรณภา พวงสน เจ้าของบริษัทเมจิกสกิน หลังผลตรวจสอบผลิตภัณฑ์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบสารต้องห้ามในสินค้าหลายชนิดของเครือเมจิกสกิน และพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมาให้การเพิ่มเติม แต่นางวรรณภากลับไม่เดินทางมาตามเวลานัดหมาย
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชนกับเจ้าของบริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเมจิกสกิน ผลตรวจผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน จาก อย. ออกมาแล้ว มีผลต่อคดีอาญาที่ 20/2561 เดิมมีผู้ต้องหาคือ นางวรรณา พวงสน และ น.ส. ธนัญพรรน์ บุญโญสิทธิ์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ผลการตรวจผลิตภัณฑ์คอลโรฟิลล์ ดีท็อก ไฟเบอร์ อย. ยืนยันว่าสินค้าไม่แสดงส่วนประกอบสำคัญที่เป็นภาษาไทย และไม่มีการเรียงลำดับจากมากไปน้อย น้ำหนักบริสุทธิ์ไม่ระบุเป็นภาษาไทย ไม่ระบุข้อแนะนำการบริโภคว่า "ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ" เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ ซึ่งตาม พ.ร.บ. อาหาร มาตรา 60 (10) มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
อีกคดีอาญาที่ 21/2561 ผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลสลิม อย.ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่พบข้อมูลสารบบอาหาร ไม่แสดงสัดส่วนประกอบที่สำคัญเป็นภาษาไทย ไม่แสดงคำเตือน "ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค" ไม่ระบุข้อความวันที่ผลิตหรือหมดอายุ แสดงฉลากเพื่อลวงหรือพยายามลวงให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดในลักษณะพิเศษ ได้รับสารบบอาหาร ณ สถานที่ผลิต บริษัทเนเจอร์นิวทรี จำกัด เลขที่ 26/14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเลขดังกล่าวไม่มีอยู่ในระบบของ อย. เข้าฐานความผิดฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตาม ม.6 (10) ปรับไม่เกิน 30,000 บาท เมื่อผลออกมาแล้ว
นอกจากนี้ ได้ทำการแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 คน คือ นายกร พวงสร และว่าที่ ร.ต.ปวีร์ ปานดำรงสถิต ข้อหาร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายหรือจำหน่ายอาหารปลอมอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 - 100,000 บาท
ส่วนผลิตภัณฑ์สลิมมิลล์ สโนมิลล์ เดิมทีดำเนินคดี นางวรรณภา พวงสน และ น.ส. มธุรส แดงสัมฤทธิ์ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งผลตรวจออกมาผลิตภัณฑ์จาก อย. แจ้งว่าส่วนประกอบไม่ตรงกับความสำคัญที่ได้รับอนุญาต ไม่แสดงส่วนประกอบที่เป็นภาษาไทย แสดงสถานที่ผลิตไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาต แสดงฉลากอาหารลวงหรือพยายามลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในคุณภาพและปริมาณหรือเรื่องสถานที่และประเทศที่ผลิต, ผู้รับใบอนุญาตในการผลิตคือ บริษัท เนเจอร์นิวทรี แต่ข้างกล่องแสดง บริษัทเมจิกสกิน เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตาม ม.6 (10) ปรับไม่เกิน 30,000 บาท และผลิตเพื่อจำหน่วยหรือจำหน่ายอาหารปลอมโทษจำคุก 6 เดือนถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท
คดีอาญาที่ 22/2561 ผลิตภัณฑ์ตรีชฎา เดิมมีผู้ต้องหาคือ นางวรรณภา พวงสน นายกร พวงสน และน.ส. ตรีชฏา ใจสบาย ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ผลตรวจของ อย.พบว่าขอจดแจ้งโดยนางวรรณภา พวงสน แต่ฉลากข้างกล่องระบุว่า บริษัทเมจิกสกิน ไม่ตรงกับที่จดแจ้ง แสดงสรรพคุณช่วยลดเหงื่อ รอยเหี่ยวย่นใต้วงแขน หรือหนังไก่ เป็นการแสดงไม่ถูกต้องระบุข้อความให้เข้าใจผิดในสาระเครื่องสำอาง เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ชื่อของสารทุกชนิดไม่ตรงกับที่จดแจ้ง ถือเป็นเครื่องสำอางปลอม จึงต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม 2 คนคือ บริษัทเมจิกสกิน โดยนายกร พวงสน และบริษัทฮานิวโคเลีย จำกัด เพิ่มข้อหาร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายรับจ้างผลิตหรือขายเครื่องสำอางปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน คดีอาญาที่ 23/2561 ผลิตภัณฑ์เฟิร์น ชิโนบิ เมสโซ เช่นเดียวกัน เดิมทีดำเนินคดีแก่ นางวรรณภา พวงสน และนายกร พวงสน เบื้องต้นได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายพิร์นิธิ ดิรณวัตถุภรณ์, นายไมยสิทธิ์ สว่างธรรมรัตน์ และนายกสิทธิ์ วรชิงตัน ข้อหาเพิ่มเติมคือ ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายหรือจำหน่ายอาหารปลอมอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท
ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่ นางวรรณา ที่ไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกนั้น ถ้าไม่มาพบพนักงานสอบสวนจะต้องออกหมายจับ โดยนางวรรณภา ได้รับประกันตัวในชั้นศาล เมื่อถึงวันให้การต่อศาลยังไม่มาอีกแสดงว่าหลบหนี ศาลต้องสั่งยึดหลักประกัน ทางตำรวจต้องดำเนินการตามตัวมาดำเนินคดี
ส่วนศิลปินดาราที่มีรับรีวิวสินค้า อย. ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสารประกอบแต่ละชนิดส่งผลตามที่โฆษณาหรือไม่ต้องรอผลการสอบปากคำเกี่ยวกับรายละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนว่าสารประกอบแต่ละชนิดที่ใส่ในเครื่องสำอาง อาหารเสริม จะแสดงผลตามที่โฆษณาหรือไม่ เมื่อได้ผลแล้วจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าศิลปินดาราจะมีความผิดฐานใด
กรณีการติดตามอายัดทรัพย์ผู้ต้องหานั้น พล.ต.อ. วิระชัย กล่าวว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งสามารถติดตามทรัพย์สินได้รวมถึงยึดรถยนต์ 3 คัน จาก 30 คัน ที่ตำรวจอายัดไว้ตรวจสอบ ส่วนอีก 27 คัน อยู่ระหว่างการติดตาม ห้ามซื้อขาย หากพบว่าบุคคลใดให้การช่วยเหลือในการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินจะถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงินร่วมกับผู้ต้องหาด้วย มีโทษจำคุกถึง 10 ปีด้วยเช่นกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง