นายคมฉัน พะชะ อายุ 48 ปี นางสาว รุ่งฤดี สีหะวงค์ อายุ 47 ปี พ่อและแม่ พร้อมด้วยนางสาว วันณิสา บุญตา ภรรยาของ พลทหาร คชา พะชะ อายุ 22 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ที่ถูกรุ่นพี่ 3 นาย ทำร้ายร่างกายอาการสาหัสภายในค่าย โดยนำเอกสารใบผลตรวจของแพทย์มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
ส่วนพลทหารรุ่นพี่ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 นาย นายทหารเวรนำตัวมาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สอบเพิ่มเติมและได้มาพบกับพ่อ แม่และภรรยา พลทหารคชา จึงได้มีการซักถามถึงสาเหตุที่ทำร้าย แต่พลทหารทั้ง 3 นาย ปฏิเสธตอบคำถาม
นายคมฉัน พะชะ อายุ 48 ปี พ่อของพลทหารคชา เปิดเผยว่า หลังได้พูดคุยกับพลทหารทั้ง 3 นาย ถึงวันเกิดเหตุทราบว่าพลทหารคชา กำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่ห้องพัก ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 นาย ได้เรียกพลทหารคชา ลงมาด้านล่าง จากนั้นสั่งให้ดันพื้น ขณะที่กำลังทำดันพื้นอยู่ถูกผู้ก่อเหตุใช้เท้าเตะไปที่เอวคนละทีจนพลทหารคชาถึงกับชัก แต่แทนที่จะช่วยเหลือกัน กลับช่วยกันลากไปทิ้งที่ป่า แต่โชคดีที่มีเพื่อนพลทหาร มาเห็นจึงได้แย่งตัวพลทหารคชา ช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล
"พลทหารรุ่นพี่ทั้ง 3 นาย ถือว่าเป็นคนเกเร ทำร้ายลูกชายยังลากเตรียมเอาไปทิ้งป่า นี้มันถึงกับจะฆ่ากันเลย จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า แต่ด้วยสาเหตุใดที่ทำร้ายลูกชายปรางค์ตายเตะแค่ 2 ครั้ง อาการลูกชายหนักขนาดนี้ ขอให้ทางตำรวจสอบสวนปากคำเค้นเอาความจริงมาให้ได้" นายคมฉัน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพ่อ แม่ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวได้ขึ้นรถตู้ของหน่วยทหารพาเดินทางไปกราบไว้สิ่งศักดิ์ศิษย์ในจังหวัดลพบุรี อาทิ ศาลเจ้าพ่อเอราวัณ ศาลพระกาฬ และอนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ก่อนเดินทางกลับไปเฝ้าดูอาการลูกชายที่โรงพยาบาล
ส่วนพลทหารทั้ง 3 นาย ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ชั่วคราวเพื่อสอบสวนปากคำบันทึกสำนวนคดี ก่อนส่งมอบตัวให้นายทหารเวรนำตัวไปคุมขังไว้ที่ในหน่วยก่อนเบื้องต้น เนื่องจากคดีนี้ต้องส่งฟ้องไปที่ศาลทหาร