การประชุมโอเปกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ธันวาคม) เหล่าพันธมิตรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันร่วมด้วยรัสเซียได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ เนื่องจากมีอุปทาน (ผลิต) ส่วนเกิน ด้วยการประกาศลดกำลังการผลิต ซึ่งจะช่วยลดปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

โดยข้อตกลงนี้ กลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกยินยอมที่จะลดกำลังการผลิตลง 800,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มการลดการผลิตในเดือนมกราคม 2562 และผู้ผลิตอื่นๆ จะลดกำลังการผลิตลงที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน

สำหรับประเทศผู้นำการส่งออกน้ำมันอย่างซาอุดีอาระเบีย ตกลงที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงที่ 250,000 บาร์เรลต่อวัน รัสเซีย 230,000 บาร์เรลต่อวัน

ทั้งที่ ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่ารัสเซียและซาอุดีอาระเบียตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับปริมาณการลดกำลังการผลิตที่รัสเซียเสนอมาที่ 100,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียต้องแบกปริมาณการลดกำลังการผลิตถึง 5 เท่า

"ความสัมพันธ์ของโอเปกและรัสเซียตอนนี้เหมือนกับการจดทะเบียนสมรส พวกเขาไม่สามารถตกลงกันได้ หากปราศจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย และรัสเซียเป็นพันธมิตรที่แข็งแรงจริงๆ" เจ้าหน้าที่โอเปกกล่าว

ในข้อตกลงครั้งนี้ อิหร่าน ลิเบีย เวเนซุเอลา และไนจีเรีย ได้รับการยกเว้นการลดปริมาณกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากมีปัญหาความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่แต่ละประเทศต้องเผชิญอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี หลังจากข้อตกลงดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 5.2 ไปอยู่ที่ 63.11 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 5 ไปอยู่ที่ 54 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

อ้างอิง; WSJ, CNN

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ราคาน้ำมันโลกผันผวน ชี้ชะตาตัวเลขส่งออกไทย
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ย.61 ลดต่อเนื่อง ผลจากสินค้าเกษตรตกต่ำ
• กบง.มีมติเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 50 สตางค์ต่อลิตร ยันไม่กระทบราคาขายปลีก