พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) ที่ประชุม ป.ป.ช. จะพิจารณาข้อแนะนำของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตามคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอมา และจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เรื่อง ประกาศ ป.ป.ช.ในการกำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 ที่ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ซึ่งรวมถึงนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย คู่สมรสและบุตรด้วย

ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า กรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาขยายเวลาในการยื่นบัญชีทรัพย์สินออกไปอีก 60 วัน เพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินได้ตัดสินใจว่าจะลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ เช่น กรรมการสภามหาวิทยาลัย หากมีการลาออกจะได้มีระยะเวลาให้การคัดเลือกไม่หยุดชะงัก ซึ่งการพิจารณาขยายเวลาหมายถึงทุกคนไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม และหลังจากมีความชัดเจนว่าจะเลื่อนระยะเวลาในการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินออกไปเมื่อไหร่ จะมีความชัดเจนว่าตำแหน่งใดจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินบ้าง ป.ป.ช. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นอย่างครบถ้วน ไม่ได้ใช้อำนาจไปบังคับใคร และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งแบบนี้ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน 

ส่วนกรณีสมเด็จพระสังฆราช ทรงดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย หรือ มหาวิทยาลัยสงฆ์ นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้วินิจฉัยแล้วว่า ไม่ทรงอยู่ในสถานะที่ต้องยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สิน เพราะทรงเป็นประมุขของสงฆ์ ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ แต่พระเถระชั้นผู้ใหญ่รูปอื่น ๆ ที่ไปนั่งเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยสงฆ์ ยังต้องยื่นตามประกาศนี้ เพราะมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายท่านที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินอยู่แล้ว