“ที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบให้ประกาศใช้วาระแห่งชาติ เรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ร่วมขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอมา ซึ่งที่ผ่านมาหลายๆคนจะเข้าใจว่ารัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มักจะมีแนวทางการดำเนินงานไม่ลงรอยกับผู้ทำงานเรื่องสิทธิมนุษยชน ดังนั้นกระทรวงยุติธรรมจึงเสนอเรื่องดังกล่าว โดยมิติของเรื่องนี้ มีเรื่องกรอบระยะเวลา 2 ปี คือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 -2562 มีหลักการ 4 สร้าง 3 ปรับปรุง 2 ขับเคลื่อน และ 1 ลด

4 สร้าง ประกอบไปด้วย

1.สร้างจิตสำนึกให้รู้จักเคารพสิทธิมนุษยชน และสิทธิผู้อื่น

2.สร้างระบบติดตามการละเมิดสิทธิ ที่ไหนบ้าง ใครมีส่วนเกี่ยวข้อง

3.สร้างวัฒนธรรมเคารพสิทธิของผู้อื่นทุกเรื่อง

4.สร้างเครือข่ายดูแลเรื่องสิทธิ

3 ปรับปรุง ประกอบด้วย 1.ปรับปรุงฐานข้อมูล 2. ปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสม 3.ปรับปรุงทัศนคติเข้าหน้าที่ของรัฐ ให้เข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน

2 ขับเคลื่อน คือ 1.ขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ 2.หาองค์กรหรือกลุ่มจังหวัดที่เป็นต้นแบบ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ทำตามเมื่อมีความสำเร็จเกิดขึ้น

1 ลด คือ การลดสถิติการละเมิดสิทธิมนุษยชน หมายความว่าทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องจัดทำแผนงานให้สอดคล้องกับหลักการนี้ แล้วดูผลสัมฤทธิ์ท้ายปีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เช่นการค้าแรงงาน ค้าประเวณี ลักลอบแรงงานต่างด้าว ว่าลดลงเพียงใด โดยจะให้ทุกกระทรวงรายงานเข้ามา

อ่านแล้วตัวผม นายฉลามเขียวน้ำตาไหลพรากเลยครับ

ยืนยัน น้ำตาไหลพราก ไม่ใช่น้ำตารื้น

โดยเฉพาะความที่ว่า “ที่ผ่านมาหลายๆคนจะเข้าใจว่ารัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มักจะมีแนวทางการดำเนินงานไม่ลงรอยกับผู้ทำงานเรื่องสิทธิมนุษยชน”

เป็นไปแล้วจริงนะครับ คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันได้ประกาศความรักที่มีต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการยกสิทธิมนุษยชนขึ้นเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ตามความข้างต้น ท่านโฆษกรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด แถลงข่าว 15.30 น.วันที่ 21 พ.ย.2560 หลังการประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวเงียบกริบ

ไม่เป็นประเด็นฮือฮาในสื่อทั้งปวง ทั้งสื่อกระแสหลัก สื่อโซเชียล แทบไม่มีเสนอข่าวนี้เลย ผมก็เลยถือโอกาสกระชากมาให้เป็นข่าวให้คนไทยรับรู้พร้อมๆกับข่าว เผด็จการรูปแบบใหม่ ได้อุบัติแล้วบนผิวโลกที่น่ารักใบนี้ เผด็จการทหารรูปแบบใหม่ในประเทศซิมบับเว

เผด็จการปากหวานจังเลย  

Emmerson Mnangagwa  รองประธานาธิบดี หัวหน้าคณะรัฐประหารตัวจริง ที่บงการทหารกองทัพซิมบับเว ทำรัฐประหาร ขี่รถถังออกจากค่ายมาล้อมบ้าน “โรเบิร์ต มูกาเบ” ประธานาธิบดีอายุ 93 กลางเมืองหลวงกรุงฮาราเร เมื่อวันอังคาร 14 พ.ย.2017 ขังไว้ในบ้าน แล้วกล่อมให้ลาออก ปู่ก็ไม่ออก ให้พรรค Zanu PF พรรคของปู่ลงมติโดยคณะกรรมการบริหารกลาง ถอดปู่ออกจากหัวหน้า ปู่ก็ไม่ออก จนต้องใช้ยุทธวิธีให้รัฐสภา impeachment คราวนี้ปู่ยอมแพ้ เขียนจดหมายลาออกให้ประธานรัฐสภาอ่านกลางห้องประชุมรัฐสภาขณะเริ่มอิมพีชเมนต์ เช้า 21 พ.ย.2017 ก็เป็นอันว่า 37 ปีแห่งการครองอำนาจคนเดียวสิ้นสุดลง แล้ววันรุ่งขึ้น นังกากวา ก็ปรากฏตัวที่หน้าพรรคซานู พีเอฟ ปราศรัยต่อบรรดามวลชนผู้สนับสนุน เสียงกังวาลทุ้ม น่ารัก

"We want to grow our economy, we want peace, we want jobs, jobs, jobs,

hailed a "new and unfolding democracy"

นังกากวา ก็เหมือนเผด็จการทหารทั่วไป ปากหวานและรู้จักจับจุดอ่อนของผู้คนมาขยำขยี้ ซึ่งซิมบับเวนั้นนับแต่ปู่มูกาเบทำเศรษฐกิจล่มสลาย เมื่อปี 2000 ผู้คน 90% เป็นคนไม่มีงานทำ นังกากวา ก็โพนทะนา  จ็อบๆๆๆๆ งานๆๆๆ จะสร้างงานให้ชาวซิมบับเว พร้อม ประชาธิปไตยโปร่งใส

โอ้ว้าว...มธุรสวาจาจากเผด็จการมันน่าอภิรมย์ซะจริง

สรุปนะครับ โลกใบนี้ขณะนี้มี 2 ประเทศที่มีรัฐบาลจากการรัฐประหาร ซิมบับเวเป็นชาติน้องใหม่ล่าสุด แม้ไม่ประกาศเป็น a coup เพราะโดน Africa Union กดซะอยู่ แต่ชาววิโลซ์ก็ถือว่ามันคือรัฐประหารนั่นแหละ เป็นการยึดอำนาจกันเองในพรรคซานูพีเอฟ พรรครัฐบาล ที่ปกครองซิมบับเวมาแต่ปี 1980 หลังได้เอกราชจากเจ้าอาณานิคมอังกฤษ 

เหตุเกิดจากปู่มูกาเบ สั่งปลด Emmerson Mnangagwa  คนที่ร่วมรบกันมาตั้งแต่ปี 1970 ออกจากรองประธานาธิบดี แล้วตั้งเมียรัก “เกรซ มูกาเบ” เป็นแทน เพื่อส่งเกรซลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในกันยายน 2018  ทหารที่ล้วนเป็นพวกเดียวกับนานกากวา ก็เลยขี่รถถังออกมายึด และบัดนี้ปู่มูกาเบก็ตกอำนาจแล้ว นังกากวาจะเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีในวันศุกร์ 25 พ.ย.2017 จะเป็นถึงแค่สิ้นอายุเลือกตั้งของมูกาเบ เมื่อ 4 ปีก่อน หรือ แค่กันยายน 2018 แล้วจัดเลือกตั้งใหม่

ผมถือว่า ประธานาธิบดีนังกากวา ได้อำนาจมาตามวิถีทางของเผด็จการทหารนะครับ เพราะใช้ปืนของทหารขี้ปู่มูกาเบให้ลง

อ่านสกู๊ปข่าวของเฟชบุ้ค BBC Thai ที่ผมลิงค์มาลงไว้นี้ประกอบนะครับ แล้วเราจะรู้ว่า นังกากวา ฉายา “จระเข้” เป็นจอมโหด

ดอกไม้ประชาธิปไตยมันจะงอกจากปากจระเข้ ได้รึ...ไม่น่ะ

เก่งจริงเลยนะจอมเผด็จการ ปากหวานมาก ดังที่ นานกากวาปราศรัยต่อม็อบผู้สนับสนุน เลือกเน้นๆ จับจุดอ่อนชาวบ้านมากระแทกหัวใจ งานๆๆๆๆ กับ ประชาธิปไตยที่โปร่งใส

ตัวผมจึงอยากรู้จริงๆ ใครเป็นคนคิดและบัญญัติคำว่า  “ที่ผ่านมาหลายๆคนจะเข้าใจว่ารัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มักจะมีแนวทางการดำเนินงานไม่ลงรอยกับผู้ทำงานเรื่องสิทธิมนุษยชน” อันเป็นต้นเรื่องทำให้กระทรวงยุติธรรมไทย เสนอสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ และ ครม.ของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็แสตมป์แล้ว

ข้อ 2 ใน 4 สร้าง เขียนไว้ว่า “สร้างระบบติดตามการละเมิดสิทธิ ที่ไหนบ้าง ใครมีส่วนเกี่ยวข้อง” ไม่ต้องติดตาม ไม่ต้องค้นหา หรอกครับ มันอยู่แค่ว่า

กล้าไหมล่ะ...!!!

สั่งปล่อยผู้ต้องขังทุกคนที่ถูกขังไว้เพราะคิดต่าง

สั่งถอนทุกคดีที่เข่นผู้ติดต่าง

คิดต่างไม่ใช่อาชญากร

ทำซะนะครับ อย่าให้มันเป็นแค่ สิทธิมนุษยชนวาระแห่งชาติกำมะลอ

ฉลามเขียว

23 พฤศจิกายน 2560

ข่าวเกี่ยวข้อง

http://www.bbc.com/news/world-africa-42077233

http://www.bbc.com/thai/thailand-42049783?ocid=socialflow_facebook