ไม่พบผลการค้นหา
พบ "เสือดาว" ขนาดโตเต็มวัยเดินริมถนนทางขึ้นแคมป์บ้านกร่าง ภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ด้านหัวหน้าอุทยานฯ ระบุ คือตัวบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์ของผืนป่าและเป็นประโยชน์ต่อการทำวิจัยเกี่ยวกับเสือโคร่งที่ร่วมมือกับองค์กร WWF

เมื่อวานนี้ (5 พ.ย.61)เมื่อเวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวสามารถบันทึกภาพเสือดาวที่กำลังเดินอยู่บนถนนเส้นทางลงจากแคมป์บ้านกร่าง ภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บริเวณหลัก กม.ที่ 13 ได้ โดยพบเสือดาวที่มีรูปร่างสมบูรณ์แข็งแรง ขนาดโตเต็มวัย ลำตัวมีสีลายจุดสีน้ำตาลอมเหลืองทอง อย่างสวยงามเดินอยู่ริมทางอย่างไม่ตื่นตระหนกเมื่อเห็นรถยนต์ของผู้สื่อข่าวขับตามหลัง อีกทั้งไม่มีปฏิกิริยาดุร้าย ยังเดินอย่างใจเย็นและเดินข้ามไปยังถนนอีกฝั่งที่เป็นป่าทึบ และลงนั่งมองรถก่อนที่จะกระโดดเข้าไปในป่า โดยภาพของเสือดาวที่บันทึกไว้ได้เป็นภาพหาดูได้ยาก ซึ่งเป็นภาพที่บ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแก่งกระจาน

ด้านนายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า สำหรับเสือดาวที่พบเป็นเสือดาวที่มีขนาดโตเต็มวัย ที่จะออกมาหากินในช่วงเวลาโพล้เพล้ หรือช่วงหัวค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีรถนักท่องเที่ยววิ่งผ่านไปมา โดยการที่เสือดาวเริ่มออกมาปรากฏตัวให้เห็น เนื่องจากปัจจุบันมีแหล่งน้ำแหล่งอาหารสมบูรณ์มากขึ้น จากการปรับปรุงทุ่งหญ้าแหล่งน้ำแหล่งอาหาร และทำโป่ง ทำให้สัตว์ที่เป็นเหยื่อมีเพิ่มขึ้น สัตว์ผู้ล่าประเภทเสือดาว เสือโคร่ง หมาใน หมาจิ้งจอก มีอาหารอุดมสมบูรณ์ จึงสามารถพบเห็นสัตว์ผู้ล่าได้ง่ายขึ้น ซึ่งอนาคตอาจได้เห็นเสือโคร่งออกมาให้เห็นบริเวณนี้

6-11-2561 11-06-03.jpg

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ทำความร่วมมือกับองค์กร WWF ทำงานวิจัยเกี่ยวกับเสือโคร่งในพื้นที่ และเหยื่อในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานด้วยความหวังให้เป็นพื้นที่อนุรักษาสัตว์ผู้ล่าทั้งเสือโคร่ง เสือดาว และเสือชนิดต่าง ๆต่อไป ดังนั้นการบันทึกภาพของผู้สื่อข่าวได้ครั้งนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อการทำวิจัยเป็นอย่างมากเพราะส่วนใหญ่ที่เจอเสือดาวจะวิ่งและกระโดดหนีไปอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ทัน

6-11-2561 11-05-37.jpg


นอกจากนี้ ยังถือเป็นเรื่องดีที่ยืนยันได้ว่าสัตว์ป่าสามารถปรับตัวให้อยู่กับการเปลี่ยนแปลง ของสภาพแวดล้อมบางประการ เช่น การทำถนนสายสามยอด-บ้านกร่าง ที่ดำเนินการก่อสร้างโดยสัตว์เหล่านี้สามารถกลับเข้ามาหากินในพื้นที่ดังกล่าวได้อีก


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เพชรบุรีโพสต์