กรณีที่กรรมการบริหาร อสมท. มีคำสั่งปลด นางอรวรรณ ชูดี ผู้ดำเนินรายการข่าว หลังจัดรายการดีเบตสะท้อนคนรุ่นใหม่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรั���มนตรี จากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สื่อมวลชนเป็นสถาบันสำคัญของประชาธิปไตย ดังนั้นการแทรกแซงสื่อจึงเกิดเป็นคำถามว่าสมควรหรือไม่ ช่อง 9 เองเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจแสดงว่าเป็นของประชาชนไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ยิ่งต้องมีความเป็นกลาง อีกทั้งคนที่มาแสดงความคิดเห็นก็เป็นอิสระไม่มีใครบังคับ และไม่ได้ว่าใครคนใดคนหนึ่ง
ตนมองว่าการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระถือเป็นหัวใจสำคัญของประชาธิปไตย ซึ่งเรื่องดังกล่าวหากเป็นการเเทรกแซงจากภาครัฐจะส่งผลลบกับฝ่ายภาครัฐเอง ทำให้มีแรงสะท้อนกลับรุนแรงขึ้น
"คนเห็นความไม่เป็นธรรมหรืออยุติธรรม คนยิ่งไม่ชอบ เชื่อว่าคนไทยเกลียดความอยุติธรรม"
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า การกระทำลักษณะนี้ยังเป็นความไม่ฉลาดทางธุรกิจ เพราะกลายเป็นกระแสลบกับทาง อสมท. มากกว่า ตรงกันข้ามควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมดา และให้ประชาชนมองด้วยวิจารณญาณของตัวเอง
เมื่อถามว่า หากปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นขนาดนี้ กลัวจะซ้ำรอยเหตุการณ์ลงประชามติรัฐธรรมนูญครั้งล่าสุดหรือไม่
นายชัชชาติ กล่าวว่า หากประชาชนเห็นแบบนี้จะยิ่งไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม และสื่อที่ไม่เป็นธรรมก็จะมีคนฟังลดลงและเลิกเชื่อถือในที่สุด
ทั้งนี้ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ปีที่แล้วขาดทุนไปกว่า 300 ล้าน ดังนั้นบอร์ดจึงควรไปดูผลประกอบการของบริษัทตัวเองด้วย ถ้ายิ่งไม่เป็นกลาง ประชาชนจะยิ่งฟังน้อยลง เพราะทุกคนมีทางเลือกมากขึ้น
"ถ้าเป็นกลาง ทุกคนจะมาฟังและตัดสินใจด้วยตัวเอง และทุกอย่างจะเข้มแข็งขึ้น แต่ทำแบบนี้ทุกอย่างจะยิ่งอ่อนแอลง" นายชัชชาติกล่าว
มาร์ค ชี้การปิดกั้นไม่ใช่คำตอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า “ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ช่อง 9 ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคลของคุณอรวรรณ สมาคมสื่อฯ ควรแสดงบทบาทชัดเจนในการปกป้องสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ตามจรรยาวิชาชีพ
ต้นสังกัดควรทบทวนการตัดสินใจ ไม่ว่าจะมีเบื้องหลังอย่างไร เรากำลังเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย การปิดกั้นไม่ใช่คำตอบ ผมขอให้กำลังใจทั้งคุณอรวรรณ คุณวีระ และ สื่อมวลชนที่กำลังจะจัดเวทีดีเบต ให้ยืนหยัดทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป”
มาดามเดียร์ ให้กำลังใจ แต่ไม่ขอก้าวล่วง
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอขอบคุณทางรายการที่ได้ในโอกาสเชิญผู้แทนของพรรคพลังประชารัฐไปร่วมรายการ ซึ่งในวันนั้นตนเองได้รับมอบหมายจากทางพรรคให้ไปร่วม ซึ่งทราบแต่เพียงว่าเป็นรายการดีเบตรูปแบบใหม่ในลักษณะเกมโชว์ และไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีคำถามอะไรบ้าง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในรายการเป็นไปตามสถานการณ์จริง ไม่มีการเตรียมบทให้แต่ละฝ่ายตอบคำถามแต่อย่างไร
ในส่วนที่มีข่าวให้ผู้ดำเนินรายการทั้ง 2 คนยุติการทำหน้าที่ ส่วนตัวขอให้กำลังใจตามหลักวิชาชีพสื่อมวลชน ที่เชื่อว่าทุกคนมีความตั้งใจในการทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด แต่ไม่ขอก้าวล่วงการตัดสินใจของคณะกรรมการบอร์ดช่อง 9 เพราะเป็นเรื่องภายในขององค์กร และหวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายและมีทางออกที่ดีที่สุด
น.ส.วทันยา ยังเชื่อว่า การจัดรายการดีเบตมีความสำคัญ และมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของการแสดงวิสัยทัศน์ เครื่องยืนยันความสำเร็จที่ดีที่สุด คือการลงมือทำให้ประชาชนเห็นจริง นอกจากนี้ต้องการเห็นเวทีดีเบตเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ ประชันวิสัยทัศน์นโยบายเพื่อเป็นทางออกให้กับประเทศ มากกว่าการพูดถึงประเด็นทางการเมืองที่จะนำสังคมกลับสู่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ได้ข้อยุติ และมีมติจากประชาชนไปแล้ว ทั้งนี้ยืนยันส่วนตัวยังจะไปร่วมรายการดีเบตในเชิงสร้างสรรค์ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :