ธนาธร จึงรุ่งเรือง ประธานคณะก้าวหน้า, ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า, พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, ไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.นครปฐม เข้ารับฟังคำสั่งศาลแขวงปทุมวัน ในคดีร่วมกันชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวันเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562
ธนาธร กล่าวก่อนเข้าฟังคำสั่งว่า แม้คำสั่งศาลจะออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องของศาล แต่หากรัฐบาลคิดว่า การจับแกนนำเข้าคุก แล้วการชุมนุมจะยุติ เป็นการคิดผิดเพราะอย่างไร การชุมนุมเรียกร้อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีความเหลื่อมล้ำ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ขอให้ทุกคนอย่าท้อและ อย่าหมดกำลังใจ ตราบใดที่รัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังยืนยันไม่ลาออก และคิดว่า ตนเองไม่ใช่ปัญหา ความขัดแย้งในครั้งนี้ การเรียกร้องของนักเรียนนักศึกษาก็ยังเดินหน้าต่อ
เช่นเดียว กับ พิธา กล่าวว่า การมาฟังคำสั่งวันนี้ มั่นใจในความบริสุทธิ์ และไม่ได้กังวลอย่างไร
สำหรับข้อหาที่เจ้าหน้าที่สน.ปทุมวัน แจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อหา ประกอบด้วย
1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง
2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟฟ้า
3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ
4.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
5.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือข้อหาคือ ทำการชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง
'พิธา' เชื่อตั้ง กก.สมานฉันท์แค่ยื้อเวลาให้รัฐบาลชุดนี้
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงข้อเสนอการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อหาทางออกของประเทศ ว่าขอดูในรายละเอียด ว่าโครงสร้างจะเป็นอย่างไร ประกอบด้วยใครบ้าง มีสัดส่วนอย่างไร มีจุดประสงค์อะไร และเนื้อหาในการดำเนินการคืออะไร
ซึ่งจากการอภิปรายที่ผ่านมายังไม่ได้มีการลงในรายละเอียด และประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย ยังไม่ได้ ระบุว่าตามข้อบังคับการประชุมร่วมกับสภา ข้อ 55 (6) เรื่องอำนาจในการตั้งคณะกรรมการว่าจะมีเนื้อหาเป็นอย่างไร โดยเห็นว่าจะต้องมีการหารือกันในรายละเอียดอย่างระมัดระวัง
และพิธายอมรับกังวลว่า การตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวอาจเป็นการยื้อเวลา ซึ่งจะต้องเข้าไปดูองค์ประกอบของคณะกรรมการเพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองได้จริงหรือไม่ หรือเพียงเป็นการประวิงเวลาและเพิ่มความขัดแย้งให้กับบ้านเมืองอย่างที่เคยมีมา หากแต่เป็นเพียงการยื้อเวลา หรือยึดอำนาจก็ไม่ต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้เป็นเครื่องมือ โดยย้ำว่าจะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบปราณีตถี่ถ้วน