ไม่พบผลการค้นหา
ซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 85.6 ระบุไม่มีใครเหมาะนั่งตำแหน่งนายกฯ เท่าพล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่รมต.ถือหุ้นผลประโยชน์ทับซ้อน ควรลาออก

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “คุณธรรม จริยธรรม นักการเมือง” จำนวนทั้งสิ้น 1,018 ตัวอย่าง โดยดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 11–12 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.4 ระบุว่า การรับรู้ภาพลักษณ์นักการเมืองในสื่อมวลชนมีข่าวเสื่อมเสียมากกว่า ในขณะที่ร้อยละ 28.6 ระบุมีข่าวภาพลักษณ์ดูดีมากกว่า

ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือ ความเห็นต่อข่าวสัมพันธ์รักนักการเมืองกับนักเคลื่อนไหวในคลิปที่เผยแพร่ในสื่อต่างๆ ส่งผลต่อพรรคการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.7 ระบุเสื่อมเสียต่อพรรคการเมือง ขณะที่ร้อยละ 41.3 ระบุไม่เสื่อมเสีย 

นอกจากนี้กรณีข่าว กกต.ลงมติรัฐมนตรีถือหุ้นสัมปทานรัฐผลประโยชน์ทับซ้อนมีผลต่อพรรคการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.4 ระบุเสื่อมเสียต่อพรรคการเมืองต้นสังกัด ขณะที่ร้อยละ 35.6 ระบุไม่เสื่อมเสีย 

เมื่อถามความเห็นของประชาชนต่อคุณธรรมจริยธรรมนักการเมืองที่จะเป็นรัฐบาลในอนาคต พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.7 ระบุยังไม่มีคุณธรรมจริยธรรมมากพอ ยังไม่ผ่านเกณฑ์ ขณะที่ร้อยละ 23.3 ระบุมีมากพอแล้ว

เมื่อถามถึงบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 ระบุยังไม่มีใครเหมาะสมมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะที่ร้อยละ 14.4 ระบุมีคนที่เหมาะสมมากกว่า

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยว่า รัฐมนตรีที่ถือหุ้นสัมปทานรัฐผลประโยชน์ทับซ้อนควรลาออกโดยเร็วที่สุดเพื่อเป็นของขวัญวันเด็กให้แก่เด็กและเยาวชนของชาติ เพราะยุคนี้เป็นยุคที่รัฐบาลและ คสช.เข้ามาด้วยความหวังสูงสุดในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้น แต่หากยังนิ่งเฉยรอเวลาต่อไปอีกอาจส่งผลกระทบกัดกร่อนฐานสนับสนุน และเสียหายต่อความเชื่อมั่นศรัทธาได้

ทั้งนี้ วันนี้ผลสำรวจชี้ชัดว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นมีใครเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และ คสช. จึงเสนอให้รัฐมนตรีเหล่านั้นพิจารณาเสียสละลาออกทันทีเพื่อรักษาระบบคุณธรรมจริยธรมนักการเมืองเป็นของขวัญวันเด็กให้แก่เด็กและเยาวชนของชาติสืบทอดต่อไป