หนังสือ Thaksin Shinawatra Theory and Thought หรือชื่อภาษาไทยว่า "ทักษิณ ชินวัตร : หลักการและความคิด" ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่อย่างเป็นทางการในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 12 ต.ค.-23 ต.ค. 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หนังสือดังกล่าวมีจำนวน 224 หน้า ราคาเล่มละ 726 บาท จัดทำโดย บริษัท เวิร์คส์ ครีเอเทีฟ จำกัด เอื้อบุญ จงสมชัย เป็นบรรณาธิการ ส่วนที่ปรึกษา มี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และศกานต์ กาญจนารมย์

เนื้อหาช่วงแรกของหนังสือเป็นการบอกเล่าและสรุปอัตชีวประวัติของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร (Tony Woodsome) นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของไทย ตั้งแต่วัยเด็ก จนประสบความสำเร็จในธุรกิจและก้าวเข้าสู่สนามการเมือง ประเดิมตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในสังกัดพรรคพลังธรรม และต่อมาก็ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย จนประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งทั่วไปถึง 2 สมัยซ้อน ในปี 2544 และปี 2548 ได้เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 2 สมัยติดต่อกัน

"ผมเป็นคนที่ชอบคิดอยู่กับตัวเอง คิดจนตกผลึกแล้ว ค่อยคุยกับคุณหญิง (พจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา) บางทีคิดจนคุณหญิงดุผมเลยว่า "ทำไมเธอไม่พูดออกมา" บางครั้งมันพูดไม่ได้ เรพาะยังไม่มีคำตอบของปัญหานั้น ข้อเสียผมอย่างหนึ่ง คือเวลาเครียดแล้วเก็บไว้กับตัวเองคิดจนรู้ว่าเราจะทำอย่างนี้นะถึงจะพูดออกไป" ดร.ทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งในหนังสือ ถึงภริยาที่ร่วมชีวิตมาตั้งแต่สมัยเรียน

"ผมดูแลลูกทุกคนคล้ายๆ กัน แต่เอม (พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์) อิ๊งค์ (แพทองธาร ชินวัตร) ด้วยความที่แม่อาจจะเข้มงวดตั้งแต่เด็ก ส่วนผมก็อาจจะสปอยล์เขาตั้งแต่เด็ก มันก็บาลานซ์ไป เหมือนช่วยกันเลี้ยงดูคนละแบบ โอ๊ค (พานทองแท้ ชินวัตร) แม่จะสปอยล์มากกว่า ผมจะเข้มงวดกว่า เพราะลูกผู้ชาย เราก็อยากให้ลูกผู้ชายเป็นแบบเรา แม่ก็อยากให้ลูกผู้หญิงเป็นแบบแม่ มันเป็นเรื่องธรรรมดาของครอบครัว" โทนี่ ระบุ

"อย่างวันนี้ อิ๊งค์เขาไปประชุมการเมือง โอ๊คเขาก็ไปนั่งอยู่ด้วย คอยดูน้อง เพราะประสบการณ์ในด้านของความเข้าใจการเมือง โอ๊คจะมากกว่าน้อง แต่น้องจะเข้าใจลึกอีกแบบ เพราะว่าอิ๊งค์อยู่กับผมตั้งแต่เด็กไง เป็นลูกที่ติดผมตั้งแแต่เด็กๆ ผมไปไหนก็เอาไปด้วย เขาก็เลยซึมซับผมโดยไม่รู้ตัว"

"ผมดูแล้วอิ๊งค์น่าจะซึมซับจากผมเยอะ แล้วสิ่งที่เขาเคยเห็นมา พอถึงวันนี้ สิ่งที่เขาถ่ายทอดออกมาก็ปรากฏว่าผมไม่ต้องเทรน ไม่ต้องโค้ชอะไรเลย"

เหตุการณ์ที่ แพทองธาร ชินวัตร เปิดตัวกับพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2565 ในตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ครั้งนั้น ทำให้ ดร.ทักษิณ เล่าทันทีว่า "ชัดเลย ผมสะอึกในคอเลย ภูมิใจ แล้วก็ต้องยอมรับว่าอิ๊งค์เขาได้ดีเอ็นเอผมกับแม่ เขาเข้มแข็งเหมือนแม่ และเป็นคนมีความเป็นผู้นำ มีความกล้า"

เมื่อถึงคำถามสำคัญเกี่ยวกับ คุณหญิงพจมาน เมื่อต้องยืนมองกระจก ดร.ทักษิณจะนึกถึงคุณหญิงพจมานก่อน

"เห็นคุณหญิง เพราะผมสงสารคุณหญิง ผมตัดสินใจอยากกลับเมืองไทย เพราะว่าคุณหญิงรับภาระแทนผมไว้เยอะสงสารเขา ถ้ากลับไปแล้วทุกสิ่งทุกอย่างได้กลับไปอยู่ครอบครัวแล้ว มันก็จบทุกอย่างซึ่งวันนั้น วันที่ผมกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมก็ต้องทำตัวให้แข็งแรงขึ้น เพื่อชดเชยเวลาที่หายไป"

เมื่อถามว่า ทำพินัยกรรมไว้ไหม ดร.ทักษิณ ตอบว่า "ส่วนใหญ่ผมมอบให้คุณหญิง เพราะคุณหญิงเป็นคนรักลูกที่สุด ผมปล่อยให้คุณหญิง ผมไม่ค่อยมีอะไรมาก มีของใช้ประจำวันไม่มาก"

ส่วนเนื้อหาที่เป็นการเปิดใจให้สัมภาษณ์ของ คุณหญิงพจมาน ถึงสามีที่ร่วมทุกข์และร่วมสุขมาเกือบทั้งชีวิต โดยคุณหญิงพจมาน บอกว่า "โตมาด้วยกัน เจอกันมาตั้งแต่อายุ 15 ท่านอายุ 21 ไปเรียนต่างประเทศด้วยกันผ่านความลำบากมาด้วยกันสร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยกัน คิดและทำทุกอย่างด้วยกันทั้งหมด จึงผูกพันยาวนาน"

วันแรกที่ ดร.ทักษิณ ถูกรัฐประหาร คุณหญิงพจมาน เล่าว่า "ตกใจที่สุด เป็นห่วงลูกๆ ว่าจะปลอดภัยอย่างไร และเราก็ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของรัฐประหารว่าจะลามมาถึงครอบครัวไหม และเราจะต้องตกอยู่ในสภาพไหน"

"รับมือด้วยความนิ่งและดูความปลอดภัยของลูกๆ เป็นหลักในตอนนั้น" คุณหญิงพจมาน ระบุ

คุณหญิงพจมาน ระบุถึงเหตุที่ ดร.ทักษิณ ต้องลี้ภัยทางการเมืองโดยใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศว่า "เห็นด้วยที่จะให้ท่านอยู่เมืองนอกก่อน และให้ลูกๆ ช่วยคุยกับท่านว่าอย่าให้พ่อกลับมาไทย เพราะตอนนั้นท่านอยากกลับประเทศไทย อยากกลับมาสู้คดีเพราะท่านคิดว่าท่านบริสุทธิ์"

คำถามสำคัญเกี่ยวกับ อิ๊งค์ แพทองธาร เปิดตัวลงเล่นการเมืองในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คุณหญิงพจมาน บอกว่า "ลูกก็มาบอกว่าเป็นความตั้งใจ พอเห็นความตั้งใจของลูกเลยแล้วแต่ลูก เพราะลูกโตแล้ว เราต้องเคารพในการตัดสินใจและไม่อยากให้ลูกกดัน ก็คอยสนับสนุนให้กำลังใจเขาห่างๆ"

ขณะที่ พานทองแท้ บุตรชายคนโต เล่าในหนังสือดังกล่าวตอนหนึ่งก่อนถึงเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ว่า พ่อเชื่อว่าเขาทำงานถวายท่านอย่างสุดหัวใจอยู่แล้ว คงไม่เกิดเรื่อง แม้จะมีกระแสรัฐประหารมาล่วงหน้าในช่วงที่ม็อบพันธมิตรฯ กำลังรุกไล่อย่างหนัก

พานทองแท้ เคยเตือนพ่อเองกับตัว "วันนั้นพ่อกำลังจะไปประชุมที่อเมริกา ผมบอกพ่อครับ เหตุการณ์อย่างนี้พ่ออย่าไปเลย มันเสี่ยง พ่อควรอยู่ในประเทศ พ่อบอกว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร พ่อดูแลไว้หมดแล้ว พวก ผบ.ทบ.ก็ตั้งมาเเอง พ่อไว้ใจทุกคน พ่อเป็นคนไว้ใจคน แล้วไว้ใจเลย"

สำหรับโอ๊ค คืนวันรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ทำให้ พานทองแท้ ต้องนอนในรถหนึ่งคืน เพราะทหารมาจ่ออยู่ที่หน้าบ้าน ส่วน อิ๊งค์เสริมว่า ตอนนั้นเรายังคิดว่าระบบยุติธรรมยังดีอยู่ ขณะที่ เอมบอกว่า ช่วงนั้นยังเรียนที่อังกฤษ เธอไม่เคยได้ยินคำว่ารัฐประหารมาก่อน ถึงขั้นตองไปเสิร์ชว่าแปลว่าอะไร

ไฮไลต์สำคัญของหนังสือมีช่วงบทสัมภาษณ์ที่ ลุงป๊อก หรือ วิชัย ช่างเหล็ก ชายผูกพันกับ นายกรัฐมนตรีคนที่23 และยังเป็นคนขับรถคู่ใจให้กับ ดร.ทักษิณ เมื่อครั้งที่อดีตผู้นำของไทยใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย

"สมัยก่อนผมเป็นเด็กล้างรถครับ อยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นปั๊มเดียวกันกับที่ท่านชอบเอารถมาล้างพอดี เลยได้เจอกันบ่อย ซึ่งท่านคงรู้สึกว่าผมน่าใช้มั้งครับ คล้ายถูกชะตา วันหนึ่งท่านเลยเอ่ยถามผมว่าไปอยู่ด้วยกันไหม ผมตอบกลับไปแบบไม่ต้องคิดเลยว่า "ไปครับ (หัวเราะ)" เพราะผมรู้สึกว่าท่านใจดี แต่ตอนแรกท่านให้อยู่โรงหนังราชวัตรของท่านก่อนนะครับ ผมทำงานเดินตั๋วและดูแลส่วนต่างๆทั่วไป"

"ผมทำงานให้ท่านมาเรื่อยๆ จนจากเด็กโรงหนัง ไปๆ มาๆ ยังไงไม่รู้เหมือนกัน วันหนึ่งผมก็ได้มาขับรถให้ท่านนั่งและได้ทำหน้าที่นั้นมาโดยตลอด เป็นงานที่ภาคภูมิใจมากครับที่ท่านไว้ใจเรา"

"ท่านเป็นคนตรงเวลามาก บอกคำไหนคือคำนี้น บอกออก 7 โมง คือรถออก 7 โมง ไม่เคยผิดนัดเลย ส่วนระหว่างวันถ้าท่านลงจากรถไปทำธุระ ผมก็จะดูแลรถต่อ เพราะผมมองว่าท่านเหนื่อยกว่าอีก เราแค่ขับรถมันไม่เท่าไรหรอก"

ลุงวิชัยบอกว่า ดร.ทักษิณไม่เคยถือตัวเลย "ถามประจำว่ากินข้าวหรือยัง ลูกเป็นไงบ้าง ครอบครัวเป็นไงบ้าง มีความสุขไหม คุยกันสบายๆ และแสดงความเป็นห่วงด้านอื่นในชีวิตเราเสมอ"

เหตุการณ์ที่ประทับใจของ ลุงวิชัย แม้เขาจะบอกว่ามีเยอะมาก แต่สิ่งที่เขาประทับใจก็คือช่วงตระเวนหาร้านก๋วยเตี๋ยวสุดโปรดของ ดร.ทักษิณ

"ร้านไหนท่านชอบก็จะไปบ่อย ท่านชอบกินก๋วยเตี๋ยว" ลุงวิชัย พลขับคู่ใจ ดร.ทักษิณ เล่าพรางอมยิ้มผ่านหนังสือ"Thaksin Shinawatra Theory and Thought"

ทั้งหมดคือเนื้อหาบางส่วนของหลักคิดการใช้ชีวิตของครอบครัวของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และลูกๆ 3 คน แต่ถ้าอยากอ่านแบบเต็มๆ ทุกแง่มุม สามารถหาซื้อหนังสือ "Thaksin Shinawatra Theory and Thought" ในราคาเล่มละ 726 บาท ภายในงานมหกรรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 27 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่บูธ i39 ตั้งแต่วันนี้ - 23 ต.ค. 2565 

หรือสามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ หรือเลือกชมเนื้อหา ได้ทาง https://www.thaksinofficial.com/product/thaksin-shinnawatra-theory-and-thought/ 

ในวันเสาร์ที่ 15 ต.ค. 2565 ดร.ทักษิณ ชินวัตร (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี มีคิวพบปะทักทายผู้ที่ซื้อหนังสือ Thaksin Shinawatra Theory and Thought ในเวลา 18.00 น. ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 27 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยการเข้าพบโทนี่ เพื่อร่วมกิจกรรมแจกลายเซ็น ต้องใช้ใบเสร็จในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ โดยสามารถเปิดลงทะเบียนรับคูปองเพื่อร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แฟนคลับรอเจอ 'โทนี่' แจกลายเซ็นเปิดตัวหนังสือใหม่ งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ 15 ต.ค.
• 'โทนี่'บี้ 3 ป.เข้มปืนเถื่อน โต้วาทกรรมฆ่าตัดตอน ไร้ดีลลับดึง 'ธรรมนัส'-ได้หลานเพิ่มถูกเร่งกลับไทย
• 'แพทองธาร' นำทัพเพื่อไทยร่วมงานหนังสือ - 'ชัชชาติ' ขอทำกรุงเทพเป็นเมืองแห่งการอ่าน
• เปิดตัวหนังสือ Thaksin Shinawatra Theory and Thought
• ‘ยิ่งลักษณ์’อยากรับลายเซ็น 'โทนี่' ชวนแฟนเพจลองอ่านหนังสือใหม่หลักการ-วิธีคิด 'ทักษิณ'