ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกศบค. เผยนายกรัฐมนตรี ขอบคุณประชาชนให้ความร่วมมือรัฐบาลแก้โควิด-19 ฟาก ผบ.ทสส. เตรียมเพิ่มด่านสกัดจราจรเป็น 377 จุด มหาดไทยให้อำนาจผู้ว่าฯ ออกมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาด 'บัวแก้ว' เตรียมหารือนำคนไทยในอิตาลีกลับมาตุภูมิ

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงผลการประชุมศูนย์ ศบค.วันที่สองในวันนี้ (26 มี.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ศบค. ได้ขอบคุณ และชื่นชมประชาชนรวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ให้ความร่วมมือต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งการจัดที่นั่งบนรถโดยสารสาธารณะ และการเว้นระยะห่าง หรือ Social Distancing ตามสถานประกอบการต่าง ๆ 

ส่วนผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)ได้เปิดเผยถึงการตั้งด่านตรวจสกัดในพื้นที่ต่าง ๆ ว่า ได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างดี และจะมีการตั้งจุดตรวจเพิ่มเป็น 377 จุด ในพื้นที่ต่าง ๆ จึงอาจจะรบกวนการเดินทางของประชาชน เพื่อตรวจสอบบ้าง

ด่านตรวจ-จุดตรวจ-โควิด19-ราชพฤกษ์


มหาดไทย ให้อำนาจผู้ว่าฯจังหวัดที่มีผู้ป่วยสูง ออกมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาด

นอกจากนั้น ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้แนะนำผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีผู้ป่วยมาก ทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดชลบุรี ,พัทยา ,ระยอง ,อุบลราชธานี จังหวัดชายแดนใต้ , สงขลา , ภูเก็ต สามารถพิจารณายกระดับมาตรการการควบคุม และป้องกันให้เข้มข้นขึ้นได้ เพื่อสกัดกั้นเชื้อจากนอกพื้นที่ และยับยั้งการแพร่ระบาด โดยให้แต่ละจังหวัด จะไปพิจารณามาตรการต่าง ๆ ตามความเหมาะสมในพื้นที่ ที่บางแห่งอาจมีการปิดเฉพาะพื้นที่ แต่ยังไม่มีการห้ามประชาชนออกจากบ้าน และขอความร่วมมือประชาชนอยู่บ้าน ลดการรวมกลุ่ม 

ประกาศให้ 'ร้านมือถือ' เปิดขายได้

นอกจากนั้น ยังได้มีการผ่อนคลายให้ร้านค้าที่เป็นศูนย์บริการในการแก้ไขปัญหาโทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถเปิดให้บริการได้ ส่วนการขนส่งสินค้า ที่จะมีการเข้าออกจังหวัดต่าง ๆ นั้น ได้รับร้องเรียนบางจังหวัดว่า เกิดปัญหา จึงจะมีการดูแลผ่อนผัน เพื่อช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการได้รับความสะดวกขึ้น

IMG_20200327125354000000.jpg

บัวแก้ว เตรียมหารือนำคนไทยในอิตาลีกลับมาตุภูมิ

โฆษก ศบค. ยังเปิดเผยด้วยว่า ในวันจันทร์ที่ 30 มี.ค.นี้ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมหารือถึงการนำคนไทยในอิตาลี ด้วยการเช่าเหมาลำเครื่องบินพาณิชย์ นำคนไทยกลับสู่ประเทศ 

สำหรับความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย COVID-19 ตามพื้นที่ต่าง ๆ นั้น โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันความพร้อม โดยเฉพาะจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วย ซึ่งบางจังหวัด มีการปรับโรงแรม เป็นโรงพยาบาลเฉพาะกิจ เพื่อนำผู้ป่วยอาการไม่หนักเข้าไปดูแล เพื่อรองรับเครื่องมือแพทย์หลัก ไว้สำหรับผู้ป่วยหนัก

พร้อมขอประชาชนอย่ากังวลว่า โรงแรมที่มีการดัดแปลงเป็นโรงพยาบาลเฉพาะกิจ จะมีการแพร่เชื้อใด ๆ สำหรับระบบการดูแลคลังเวชภัณฑ์ทางการแพทย์นั้น ได้งบกลางจากรัฐบาลมาสนับสนุน จำนวน 1,500 ล้านบาท โดยศูนย์ ศบค. จะประสานกับกระทรวงสาธรณสุขรับผิดชอบในการจัดซื้อเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อกระจายให้โรงพยาบาลต่าง ๆ 

ส่วนการจัดหาชุดตรวจห้องปฏิบัติการนั้น โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้บริษัทเอกชนเข้ามาจำหน่าย ชุด PCR หรือชุดตรวจเชื้อภายในจมูก จำนวน 12 บริษัท และการตรวจแบบเร่งด่วนอีก 2 บริษัท 


พาณิชย์ เร่งปราบปรามผู้ค้าขายไข่เกินราคา

โฆษก ศบค. ยังได้ชี้แจงถึงสถานการณ์สินค้าต่าง ๆ มีการปรับราคาขึ้นว่า ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ประกอบการรายใหญ่ประมาณ 7 แห่ง โดยเฉพาะราคาไข่ไก่ ซึ่งอาจเกิดปัญหาบางประการ และหากใครขายเกินราคา กระทรวงพาณิชย์ ก็จะมีการจับกุมเพื่อปราบปราม โดยจะใช้มาตรการนี้ต่อเนื่อง และจะมีการตรวจตราต่อไป 

ขณะเดียวกัน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังได้รับการอนุมัติให้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 3 ชุด ทั้งอนุจัดการหน้ากาอนามัยระดับชาติ , อนุกรรมการกำหนดราคากลางสำหรับเวชภัณฑ์ ระดับประเทศ และอนุกรรมการพิจารณาส่งออกหน้ากาอนามัยที่ติดลิขสิทธิ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนในชาติ 


แจง ขรก.สธ.หลายคนผูกพัน "อนุทิน" ตั้งแต่เป็นรมช.

โฆษก ศบค. ยังกล่าวถึงกรณีที่รองนายกรัฐมนตรี สื่อสารผิดพลาดเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) จนกระทบต่อขวัญ และกำลังใจของบุคลากรทางการแพทย์ว่า รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกคลิปชี้แจงแสดงความเสียใจที่ได้สื่อสารไปแล้ว เพราะชุดข้อมูลที่ได้รับรายงานนั้นคลาดเคลื่อน แต่การดูแลขวัญกำลังใจ และการสนับสนุนยุทโธปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ รองนายกรัฐมนตรี ก็เน้นย้ำและพร้อมสนับสนุน จนเกิดการรับบริจาคต่าง ๆ จากภาคเอกชนและต่างประเทศ โดยขอให้ทุกคนก้าวผ่านไปด้วยกัน และข้าราชการหลาย ๆ คนก็ผูกพันกับนายอนุทินตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีช่วย จึงมั่นใจว่าหลายคนจะเข้าใจ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :