ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการเปิดเรียนวันแรกแบบเต็มรูปแบบว่า ได้กำชับการจัดทำบันทึกประจำวันของนักเรียนในแต่ละวันหลังเลิกเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยขณะนี้รัฐบาลมั่นใจว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศลดน้อยลงมาก แต่ยังต้องระวังไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยเฉพาะจากในโรงเรียน ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่าการเปิดเรียนเต็มรูปแบบเริ่มที่โรงเรียนนานาชาติเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จนในวันนี้ได้เปิดการเรียนในโรงเรียนของรัฐและเอกชนอื่นๆ ทั้งนี้ ได้รับรายงานปัญหาคือการจราจรติดขัด แต่มาตรการด้านสาธารณสุขของโรงเรียนต่างๆ ยังคงเป็นไปตามปกติ
อย่างไรก็ตามเตรียมที่จะดูแลโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ควบคู่กันไป เพราะการเปิดเรียนครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่รัฐบาลมั่นใจว่าหากมีการระบาดทุกโรงเรียนสามารถกลับไปทำการเรียนการสอนแบบ New Normal ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ห่วงใยในเรื่องการลงทะเบียนและจัดทำบันทึก เพราะถือเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค หากมีปัญหาเกิดขึ้นจะได้แก้ไขอย่างทันท่วงที
ทั้งนี้หากเกิดปัญหาขึ้นจะใช้มาตรการปิดกลุ่มชั้นเรียนก่อน หรือขึ้นอยู่กับเคสที่เกิดขึ้นว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร เช่น เหตุเกิดที่จ.ระยอง ก็ปิดการเรียนที่จังหวัดระยอง แต่ระยะเวลาการปิดเรียนขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่จะพิจารณา โดยทางกระทรวงจะประเมินผลทุก 5 วัน 7 วัน 10 วัน และ 14 วัน ว่าเมื่อเปิดเรียนแล้วพบความเสี่ยงในด้านใดบ้าง แต่ยืนยันขอให้มั่นใจรัฐบาลในการบริหารจัดการได้ ซึ่งแม้วันนี้จะมีความเสี่ยงน้อย แต่จะไม่ประมาท และมีแผนรองรับเผชิญปัญหาที่จะเกิดขึ้น
ส่วนโรงเรียนชายขอบที่ยังมีนักเรียนไม่ได้เดินทางมาเข้าเรียนนั้น ณัฏฐพล กล่าวว่า ยังมีหลงเหลือนักเรียนที่เข้ามาไม่ได้นับหมื่นคน ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการกำลังออกมาตรการของนักเรียน รหัส G โดยต้องรอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาว่านักเรียนจำนวนดังกล่าวจะมีแนวทางให้เข้ามาอย่างไร
เบื้องต้นต้องหาสถานที่กักกันตัว 14 วัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข ในการเดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มงวด ซึ่งหากเข้าประเทศไทยมาแล้ว จะยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: