วันที่ 1 พ.ค. ที่หอประชุมสาเกตฮอลล์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสาน
พล.อ.ประวิตร กล่าวทักทายประชาชนว่า อยากให้ จ.ร้อยเอ็ด เจริญไหมครับ ถ้าอยากให้เจริญก็เลือกพรรคพลังประชารัฐ และยืนยันว่า ตนและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมจะรับใช้ประชาชน และพร้อมจะพัฒนา จ.ร้อยเอ็ด รวมถึงอยากให้คนไทยรักและสามัคคีกัน พวกเราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวความยากจนไปด้วยกัน การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นจะมีนโยบายเพื่อเกษตรกร สนับสนุนกองทุนเกษตรกร 30,000 บาท และกองทุนหมู่บ้าน รวมถึงนโยบาย ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และค่าแก๊สทันทีที่พรรคพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะทําทุกวิถีทาง เพื่อให้ภาคอีสานอยู่ดีกินดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยยกระดับการขนส่งคมนาคม พัฒนาภาคอุตสาหกรรมควบคู่ไปกับระบบการศึกษา ให้สอดรับกับการประกอบอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ด้วยนโยบายอีสานประชารัฐ วันนี้ถือเป็นวันแรงงานแห่งชาติ ฉะนั้นเรามีนโยบายที่จะช่วยให้แรงงานชีวิตดีขึ้น
“ต่อไปนี้ชาวอีสานจะไม่น้อยหน้าใคร เราจะดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก ทั้งจีน และเกาหลี มาลงทุน ขอให้เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ แรงงานอีสานต้องรวย มีชีวิตที่ดี มีความมั่นคง เลือกเราเบอร์ 37 ขอให้เลือกทั้งเขต และพรรค และที่มาร้อยเอ็ดในวันนี้ เพราะรักคนร้อยเอ็ด“ พล.อ.ประวิตร กล่าว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ในเวลาประมาณ 16.00 น. พล.อ.ประวิตร เดินทางไปที่วัดบูรพาภิราม (วัดพระยืน) อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อเข้ากราบสักการะนมัสการ พระพุทธะรัตนมงคลมหามุนี และตัวแทนเจ้าอาวาส ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย โดยตัวแทนเจ้าอาวาส ได้กล่าวว่า ได้เจอตัวจริง พล.อ.ประวิตร ปกติเจอแต่ในโทรทัศน์ ตัวจริงท่านยังไม่แก่ ยังดูแข็งแรง และได้อวยพรให้ พล.อ.ประวิตร สุขภาพร่างกายแข็งแรง
‘ธรรมนัส’ อวยพรชาวร้อยเอ็ด ขอให้อายุยืนจนถึงเกณฑ์รับเบี้ยผู้สูงอายุ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐกล่าวปราศรัยว่า ตนอยากถามว่า คนที่นั่งอยู่ ใครเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน ใครเป็นหนี้ ธกส. บ้าง และวันนี้พรรคพลังประชารัฐ จะมาบอกข่าวดี จากนโยบายของพรรค ใครเป็นเกษตรกรบ้าง ตนก็เป็นลูกชาวนา ตอนเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตนนั่งเครื่องบินมาร้อยเอ็ดบ่อย เพราะต้องการส่งเสริม ข้าวหอมมะลิของร้อยเอ็ด แต่ร้อยเอ็ดน่าสงสาร เพราะระบบนอกเขตชลประทานเยอะ ต้องอาศัยเทวดาจากกรมฝนหลวง ซึ่งตอนนั้นตนกำกับดูแลอยู่ด้วย
พร้อมย้ำถึงนโยบาย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า จะเปลี่ยนจาก 300 บาท มาเป็น 700 บาท รวมถึงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน
"ขออวยพรให้อยู่กันจนได้ใช้เบี้ย 5,000 บาท เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่จับต้องได้ ไม่ต้องรอ" ร.อ.ธรรมนัส ระบุ
ร.อ.ธรรมนัส ยังเล่าว่า ช่วงเกิดภัยพิบัติปี 2563 ตนได้ลงพื้นที่ มีคุณยายมาร้องไห้ เพราะน้ำท่วมแปลง ทำให้นาเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมา ตนและหัวหน้าพรรค ได้ลงมาช่วยชาวบ้านชาวร้อยเอ็ดตลอด และวันนี้จะมาเชิญชวนให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมถามว่า "พร้อมเปลี่ยนหรือยัง ของเก่าไม่เอา เอาแต่ของใหม่ ของเก่าถอดทิ้ง"
หากดูตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ยังไงพรรคพลังประชารัฐก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมกับปลุกปั้นนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ "ลุงป้อม" พร้อมบอกว่า ตนอยู่กับพลเอกประวิตรมาหลายปี เป็นคนที่ใจถึง พึ่งได้ ดังนั้น 14 พ.ค. ลืมอะไรก็ลืมก็ได้ แต่อย่าลืมกาเบอร์ 37 ให้พรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้บรรยากาศในการปราศรัยหาเสียงทั้งใน จ.ขอนแก่น เมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) และจ.ร้อยเอ็ด ในวันนี้ พบว่ามีประชาชนมาร่วมกว่า 10,000 คน อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตอีกว่า ยังเป็นการปราศรัยในพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทย โดยมีการนำของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งร่วมขึ้นเวทีปราศรัย แต่ไม่ได้กล่าวปราศรัยแต่อย่างใด