นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงตำหนิผู้ที่ออกมาคัดค้านการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัย เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างคำพูดของนายกรัฐมนตรีว่า ทำไมเพิ่งมาคัดค้านโครงการดังกล่าว
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า "หากการออกมาคัดค้านได้ดำเนินการตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นโครงการก่อสร้าง ก็จะไม่ทำให้เรื่องยืดยาวหรือต้องสูญเสียงบประมาณของรัฐเช่นนี้" นั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คำแถลงดังกล่าวเป็นลักษณะ "เอาดีเข้าตัวโยนชั่วให้คนอื่น" หรือแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่ามีประชาชนคัดค้านโครงการดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงนั้นชาวบ้านคัดค้านมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เป็นเพราะการไม่ยอมรับฟังข้อท้วงติงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปัญหาจึงลุกลามบานปลายมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในส่วนของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ก็ได้ทำหนังสือท้วงติงไปยังอธิบดีศาลอุทธรณ์ภาค 5 อธิบดีกรมธนารักษ์ และอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ทบทวนการใช้พื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2559 แล้ว (ปรากฎตามสำเนาหนังสือแนบ)
แต่หน่วยงานดังกล่าวไม่ยอมรับฟังและทบทวนตามที่สมาคมฯ ทักท้วงเลย จึงทำให้รัฐต้องสูญเสียเงินงบประมาณบานปลายไปเช่นนี้
ทั้งนี้ การเลือกพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักและสำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่เจาะเข้าไปในพื้นที่ที่มีป่าไม้ขึ้นอุดมสมบูรณ์เชิงดอยสุเทพ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนเชียงใหม่ ปุถุชนทั่วไปก็รู้ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้นการออกมาคัดค้านของประชาชนคนเชียงใหม่และคนที่มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นโดยชัดแจ้งว่ารัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงจะชอบ เพราะไม่มีอำนาจใดเหนือไปกว่าอำนาจของประชาชน และที่สำคัญการสูญเสียเงินแผ่นดินที่เสียหายไปกับการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัยเชิงดอยสุเทพดังกล่าว ในอนาคต "ต้องมีคนรับผิดชอบ" แน่นอน
จะปล่อยไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเงินแผ่นดินต้องตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติ/อนุญาตควรเตรียมตัวไว้ เพราะคดีทุจริตและประพฤติมิชอบไม่มีอายุความ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :