ในงานแถลงข่าวเปิดตัว "ไอคอนสยาม" ที่โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรียน กรุงเทพฯ วันนี้ (30 ต.ค. 2561) นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวถึงเหตุผลที่ทุ่มงบกว่าพันล้านบาทในการเนรมิตรงานเปิดตัวครั้งนี้ว่าเป็นการตอกย้ำแนวคิด "สิ่งที่ดีที่สุดของไทย บรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก” โดยการแสดงทั้งหมดจะจัดขึ้นภายในธีม "Legendary Party”
งานเปิดตัวครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเหล่านักสร้างสรรค์งานอีเวนต์ที่เป็นสุดยอดของประเทศไทยและของโลก รวม 7 บริษัท ประกอบไปด้วย บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน), บริษัท อินเทลเทคโนโลยี จำกัด, ซีเอ็มโอ กรุ๊ป, บริษัท แม็กซ์ อิมเมจ จำกัด, บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด, บริษัท ตือ จำกัด และ บริษัท เอ็มคิวดีซี ไบรท์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด
การแสดงสุดอลังการในวันเปิดตัว
ผู้มาเยือนจะได้รับการต้อนรับจากการแสดงผสมผสานการเชิดหนังใหญ่ประยุกต์ โดยนำเอาผลงานศิลปะของศาสตราจารย์กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ปี 2540 สาขาทัศนศิลป์ มาเชิดแสดงด้วยผู้เชิดหนังระดับปรมาจารย์จากวัดขนอน ร่วมกับศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็ก นอกจากนั้นยังมีการแสดงระดับโลกหมู่มวลผีเสื้อและดอกไม้ในรูปแบบนักแสดงขายาว หรือ Stilt Walker (สติลท์ วอล์กเกอร์) จาก Empress Stilt Dance (เอ็มเพรส สติลท์ แดนซ์) คณะโชว์ชื่อดังจากประเทศออสเตรเลีย
ณ บริเวณ River Park ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีการแสดงชุด "Eternal Prosperity – โรจนนิรันดร” ซึ่งเป็นการแสดงเพื่อสะท้อนความรุ่งเรืองในอดีตที่สืบสานมาต่อจนถึงปัจจุบันของแม่น้ำเจ้าพระยาสายนี้ โดยเนรมิตให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็นเวทีจัดแสดงผลงานประติมากรรมขนาดใหญ่ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ การแสดงชุดนี้ยังประกอบไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจของพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำครั้งแรกของประเทศไทยที่มีชื่อว่า "เรือสำเภาศรีมหาสมุทร”
เพื่อตอกย้ำการเปิดตัวที่เป็นปรากฎการณ์ระดับโลก ไอคอนสยาม ร่วมมือกับ 'อินเทล' บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก สร้างสรรค์การแสดงบนท้องฟ้าด้วยขบวนโดรนกว่า 1,500 ลำ ถือเป็นการแสดงโดรนแปลอักษรครั้งแรกในประเทศไทย และใช้โดรนเป็นจำนวนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่ามหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งจัดขึ้นประเทศเกาหลีใต้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งยังมีการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงชื่อดัง ร่วมกับนักแสดงสมัครเล่นจากทั่วประเทศไทยกว่า 500 คน ปิดท้ายด้วยการแสดงระบำสายน้ำที่ยาวที่สุดในเอชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้านในอาคารไอคอนสยาม มีการแสดงร่ายรำผสมผสานกายกรรมผาดโผน โดยออกแบบเป็นเรื่องราวที่สะท้อนศิลปะอันงดงามของงานประดิษฐ์และการร้อยมาลัยของไทยโดยคณะนักแสดงกายกรรมจากประเทศจีน และการแสดงดนตรีของวงเอกรงค์ ซึ่งควบคุมวงโดยอาจารย์ จิรพรรณ อังศวานนท์ และขับขานบทเพลงโดยศิลปินระดับดีว่าของไทย คุณกบ เสาวนิตย์ นวพันธ์
ยังมีการแสดงชุด "โสภาอาภรณ์พรรณ สร้างสรรค์ร่วมสมัย” ซึ่งเป็นการจัดแสดงผลงานจาก 4 ดีไซเนอร์ชั้นนำของไทย ได้แก่ คุณจิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล, คุณวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข, คุณธีระ ฉันทสวัสดิ และคุณพลัฏฐ์ ศรีลลิตสร้อย มาร่วมสรรค์สร้างผ้าไหมแต้มหมี่ของไทยอย่างวิจิตรบรรจง
ไอคอนสยามยังนำการแสดงที่ดีที่สุดระดับโลก จาก 5 ประเทศ ซึ่งหาดูได้ยากมาทำการแสดงในการเปิดตัวครั้งนี้ด้วย ได้แก่ การแสดงศิลปะการตกแต่งอาหารบนอาภรณ์ชั้นสูง ครั้งแรกในประเทศไทย จาก ทอม วูล์ฟ เซเลบริตี้เชฟชื่อดังระดับโลกจากประเทศอังกฤษ การแสดงมายากลชุดพิเศษโดยนักมายากลระดับโลก 2 คน คือ ชาร์ลี แม็ก นักมายากลรุ่นใหม่ชาวสเปนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากการแสดงมายากลนกพิราบ และ วินซ์ อีกหนึ่งนักแสดงมายากลชื่อดังชาวฝรั่งเศส ยังมีการแสดงบัลเลต์ชั้นสูงจากเหล่านักบัลเลต์จากมารินสกี้ เธียเตอร์ ของประเทศรัสเซีย กำกับการแสดงโดย เอริก้า เลอเม/ ฟิซิคัล โพเอทรี้ จากประเทศแคนาดา
เม็ดเงินลงทุน 54,000 ล้านบาท จาก 3 ผู้ร่วมทุน ปั้น 'ไอคอนสยาม'
โครงการไอคอนสยามเป็นความร่วมมือระดับหลายหมื่นล้านบาทของ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ ประกอบ���ปด้วย บริษัท สยามพิวรรธณ์ จำกัด, บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด โดยมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 54,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการของการลงทุนด้านห้างสรรพสินค้าของไทย โครงการไอคอนสยามตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร บนเนื้อที่กว่า 55 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็น 3 ส่วน ได้แก่
(1) อาณาจักรศูนย์การค้า บนพื้นที่ 525,000 ตารางเมตร ซึ่งประกอบไปด้วย 2 อาคาร คือ "ไอคอนสยาม" และ "ไอคอนลักซ์"
(2) ที่พักอาศัย เป็นคอนโดมิเนียม 2 อาคาร อาคารแรกมีชื่อว่า "แมกโนเลีย วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม” ความสูง 70 ชั้น และ "เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ” ความสูง 52 ชั้น
(3) “7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม” สิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ทั้ง 7
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวว่า
"คาดการณ์ว่า ในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการไอคอนสยามเฉลี่ย 150,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นชาวไทยร้อยละ 60 – 70 และชาวต่างชาติร้อยละ 30 – 35” นายสุพจน์กล่าว
ในขณะที่ นางชฎาทิพเองก็กล่าวย้ำความมั่นใจในตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามายังไอคอนสยาม
"ไอคอนสยามจะรองรับนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าปีละ 20 ล้านคน” นางชฎาทิพเสริม
โครงการไอคอนสยามเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 และเป็นโครงการขนาดใหญ่ จึงต้องมีการพูดคุยกับหลายภาคส่วน โดยนางชฎาทิพเองย้ำว่า มีการพูดคุยกับชาวบ้านในรัศมี 10 กิโลเมตรจากโครงการเพื่อพูดคุยปรึกษาถึงผลกระทบและประโยชน์ที่ไอคอนสยามสามารถคืนให้แก่ชุมชนได้
ไอคอนสยามเล็งเห็นถึงปัญหาการเชื่อมโยงของการคมนาคม จึงได้ลงทุนด้านการขนส่งทั้งในด้านท่าเรือที่สร้างเพิ่ม 4 ท่า และเพิ่มความปลอดภัยในท่าเรืออื่นๆ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มรายได้ของชาวบ้านในแถบนี้ อีกทั้งยังเป็นเอกชนรายแรกที่ลงทุนสนับสนุนรถไฟสายสีทองเพื่อก่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่าง รถยนต์ รถไฟ และเรือ
ปิดท้ายที่นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์เปอเรชั้น จำกัด ที่กล่าวว่า แม้เริ่มแรกนั้นโครงการไอคอนสยามจะต้องเผชิญความท้าทายในด้านความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุน อันเนื่องมาจากมูลค่าเม็ดเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับในช่วงแรกของโครงการในปี 2557 นั้น ประเทศไทยเองไม่ได้อยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ดีมากนั้น แต่นายวิสิษฐ์และผู้ร่วมก่อตั้งโครงการไอคอนสยามมีความเชื่อมั่นและมุ่งมั่นที่จะผลักดันโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จ โดยตั้งเป้าว่าจะต้องเป็น 'ไอคอน' หนึ่งของประเทศไทย