พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับวอยซ์ทีวีถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า สรุปมีเหตุการณ์ขึ้น 5 แห่ง ใน 2 จังหวัด คือที่ จ.ยะลา กับ จ.นราธิวาส ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้บาดเจ็บเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ และตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดแล้ว 

สำหรับมาตรการป้องกันช่วงปีใหม่ที่ถึงนี้ ทาง กอ.รมน.ได้เริ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่แล้วตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา และจะมีไปจนถึงวันที่ 4 ม.ค. 61 โดยแผนดูแลช่วงเทศกาลปีใหม่แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ งานด้านเชิงรุก ที่ทางเจ้าหน้าที่จะทำการติดตามและกดดันกลุ่มต้องสงสัย, งานด้านการควบคุมพื้นที่ เป็นการบูรณาการร่วมมือกันจากหลายฝ่ายดูแลพื้นที่เศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย และสุดท้ายการตั้งด่านจุดตรวจเพื่ออำนวยความสะดวกและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดกับประชาชนที่ต้องเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย

ทั้งนี้ พ.อ.ปราโมทย์ ยังกล่าวด้วยว่า กลุ่มคนร้ายไม่เลือกช่วงเวลาในการก่อเหตุ ทุกช่วงเวลาสามารถก่อเหตุได้หมด เพราะกลุ่มคนร้ายต้องการมุ่งสร้างความหวาดกลัวและทำลายพื้นที่เศรษฐกิจ รวมทั้งสร้างความไม่สงบในพื้นที่เท่านั้น

โดยเหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ธ.ค.) กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าบริเวณบ้าน กม.26 หมู่ 1 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา แรงระเบิด ทำให้รถยนต์ของชาวบ้านเสียหายเล็กน้อย จำนวน 1 คัน เสาไฟฟ้าหักล้ม ได้รับความเสียหาย จำนวน 5 ต้น ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ไฟฟ้าดับทั้งเมือง อ.เบตง และมีการยิงรถบรรทุกน้ำยางจนเกิดความเสียหาย ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส กลุ่มคนร้ายก่อเหตุเผายาง, เผาเสาส่งโทรศัพท์ และจุดประทัดยักษ์รบกวนจุดตรวจของเจ้าหน้าที่

จากข้อมูลสถิติของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ หรือ Deep South Watch สรุปสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 60 ที่ผ่านมา ระบุว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนมีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นทั้งหมด 37 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บอีก 18 คน ซึ่งตลอดทั้งปี 2560 ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน มีจำนวนเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นรวม 551 ครั้ง สูงสุดอยู่ที่เดือนเมษายน ที่ 109 เหตุการณ์ ต่ำสุดคือเดือนกันยายน 29 เหตุการณ์ 

ตั้งแต่ปี 2547 เป็นเวลา 13 ปี มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 19,385 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6,593 ราย และบาดเจ็บ 13,085 คน และแม้แนวโน้มการเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจะมีทีท่าลดลง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าความรุนแรงที่ยืดเยื้อนี้ยุติหรือคลี่คลายแล้ว เนื่องจากยังไม่แก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างจริงจัง