นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเบี้ยล่างเยอรมนี หลังการเดินทางไปเยือนเยอรมนีของนายกรัฐมนตรี ว่า ช่วงเวลาที่ไปนั้นเป็นช่วงที่ทั้ง 2 ฝ่ายสะดวกตรงกัน และเหนือสิ่งอื่นใดภารกิจนี้สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับและความเชื่อมั่นของประชาคมระหว่างประเทศที่มีต่อรัฐบาลไทยอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ไปเยือนสหรัฐฯ ออสเตรเลีย อังกฤษ และฝรั่งเศส มาแล้ว การที่ไทยมีแผนจัดการเลือกตั้งที่ชัดเจนและการเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 เป็นสิ่งที่เยอรมนีให้ความสำคัญ เพราะไทยจะมีบทบาทอย่างมากในการเชื่อมโยงอาเซียนและเอเชีย
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในโลก ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งทุกรัฐบาลรู้ดีในข้อนี้ จึงไม่น่ามีข้อสงสัย พร้อมทั้งยืนยันว่า การเดินทางไปเยือนเยอรมนียังได้ประโยชน์หลายด้านทั้งการค้า โดยทั้ง 2 ฝ่ายตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 1.5 หมื่นล้านยูโร ภายในปี 2563 และเยอรมนียังจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปยังจีนและเอเชีย ขณะที่ไทยจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนใช้เยอรมนีเป็นฐานการลงทุนไปสู่ยุโรป
นอกจากนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและพัฒนาความรู้ร่วมกันในหลายด้าน เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ Big Data รัฐบาลดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้งการยกระดับทักษะทางอาชีวศึกษาอีกด้วย