เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ม.ค.2561 เกิดเพลิงไหม้บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารขาออกของท่าอากาศยานขอนแก่น พบกลุ่มควันจำนวนมากลอยอยู่เต็มอาคาร ทำให้ผู้โดยสารที่มารอเดินทางในช่วงเช้ารวม 8 เที่ยวบินกว่า 1,000 คน ต่างพากันวิ่งหนีออกจากตัวอาคารกันอย่างโกลาหล เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ต้นเพลิงเกิดจากบริเวณห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของอาคารสนามบินชั้น 3 ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มควันจำนวนมากปกคลุมตัวอาคารทั้งหมด ทำให้ต้องมีการสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณอาคารเพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบความเสียหายเฉพาะในส่วนของควบคุมไฟของอาคารเท่านั้น ไม่กระทบต่อการควบคุมการบินแต่อย่างใด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสนามบินไม่สามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ ขณะนี้ได้ประกาศปิดสนามบินขอนแก่นห้ามทำการบินโดยเด็ดขาด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทำให้เที่ยวบินพาณิชย์ในช่วงเช้าได้รับผลกระทบทั้งหมด
ด้าน ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น เปิดเผยกับวอยซ์ออนไลน์ว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเกิดขึ้นในส่วนอาคารผู้โดยสาร ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการขึ้นลงของสายการบิน สำหรับสถานการณ์ในภาพรวมล่าสุดได้คลี่คลายแล้ว เหลือเพียงการรีดน้ำที่ใช้ดับเพลิงให้แห้งสนิท รวมถึงตรวจสอบระบบไฟฟ้าในตัวอาคาร เบื้องต้นคาดว่าประมาณเวลา 12.00 น. ของวันนี้ จะสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ สำหรับผู้โดยสารที่ตกค้างจากเที่ยวบินช่วงเช้า ได้มีการจัดรถบัสรับส่งผู้โดยสารไปขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานีชั่วคราวแล้ว
ล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานขอนแก่น ได้เปิดให้บริการตามปกติแล้ว โดยมีการเปิดจุดบริการผู้โดยสารชั่วคราว โดยผู้โดยสารขาเข้านั้น ได้มีการปรับย้ายไปใช้ที่โรงแรมราชาวดี และผู้โดยสารขาออกได้กันพื้นที่บริเวณด้านหน้าประตู 3 ช่วงลานจอดรถเป็นพื้นที่สำหรับการให้บริการเช็คอิน การตรวจสัมภาระ และการประสานงานร่วมสายการบินต่างๆทั้งหมด
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า สาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้ต้องรอการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง โดยยืนยันว่าต้นเพลิงเกิดจากห้องควบคุมระบบไฟฟ้า ชั้น 3 ของตัวอาคาร ซึ่งปกติจะมีการตรวจสอบระบบเป็นประจำทุกเดือน อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นเพียงเฉพาะห้องควบคุมไฟฟ้าของสนามบินเท่านั้น ขณะนี้เร่งทำการระบายควันไฟและกลิ่นไหม้ที่มีอยู่ในอาคารออกให้หมด รวมทั้งเร่งทำความสะอาดพื้นที่อาคารโดยรวมเพื่อให้สามารถกลับมาเปิดให้บริการทั้งระบบอีกครั้งได้ในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.61)
