นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี หลังจากพบว่า หลายพื้นที่มีระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.20 เมตรและมีน้ำไหลเชี่ยว เช่น ทางหลวงหมายเลข 323 สายกาญจนบุรี-สังขละบุรี ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ต้องจอดรอข้างทาง พร้อมกันนี้ยังประกาศให้พื้นที่ อ.สังขละบุรี เป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนทำได้โดยมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้นายอำเภอสังขละบุรี ได้สั่งให้ปิดการเดินบนสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากได้พัดพาซากเศษไม้และต้นไม้มาติดสะพาน พร้อมกันนี้ ยังประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ชี้แจงกับนักท่องเที่ยวเรื่องความปลอดภัยในการท่องเที่ยวช่วงนี้ด้วย
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี ลงพื้นที่ อบต.ไล่โว่ ซึ่งตั้งเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.กาญจนบุรี และศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อประชุมประเมินติดตามสถานการณ์น้ำ และการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย รวมทั้งวางแนวทางการอพยพชาวบ้านประมาณ 500 คน ออกจากพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะบ้านสะเนพ่อง ต.ไล่โว่ ซึ่งมีระดับน้ำสูงกว่า 5 เมตร ทำให้หมู่บ้านดังกล่าวถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ซึ่งได้จัดเตรียม อบต.ไล่โว่ ให้เป็นสถานที่พักชั่วคราวไว้แล้ว ขณะที่ทางหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า และ อบต.ไล่โว่ ได้นำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปส่งให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้นแล้ว
สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทักภัยในเขต อ.สังขละบุรี ประกอบด้วย หมู่ที่ 2-3-4-5-6-8-10 ตำบลหนองลู และหมู่ที่ 1-2-3 ตำบลไล่โว่ ซึ่งพื้นที่ของ อบต.ไล่โว่ ประสบกับปัญหาหนักที่สุด เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงกว่า 5 เมตร และกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ส่งให้การการให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากเช่นกัน
จ.บึงกาฬ สั่งปิดถ้ำพระ หวั่นนักท่องท่องไม่ปลอดภัย
ส่วนที่ จ. บึงกาฬ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าหลากลงมาจากภูวัว มาถึงบริเวณพื้นที่น้ำตกถ้ำพระ บ้านถ้ำพระ ต.โสกก่าม อ.เซกา เพิ่มขึ้น นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ บึงกาฬ สั่งการให้เจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์พันสัตว์ป่าภูวัว อบต.โสกก่าม และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมประชุมตกลงกัน ให้ปิดน้ำตกไม่ให้นักท่องเทียวขึ้นไปเที่ยว โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 21 ก.ค. นี้ เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว สำหรับน้ำตกถ้ำพระแห่งนี้ จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และเป็นน้ำตกที่นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือเข้าไปเกือบ 800 เมตรเพื่อชมความงดงาม ซึ่งหากเกิดมีน้ำป่าไหลหลาก จะเป็นการยากที่จะเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้ได้ทันท่วงที
