ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีแรงงานกัมพูชาหารืออธิบดีกรมการจัดหางานพร้อมร่วมมือแก้ไขปัญหาการพิสูจน์สัญชาติล่าช้า เตรียมจัดชุดโมบายลงพื้นที่ อำนวยความสะดวกและดูแลค่าใช้จ่ายของแรงงาน ป้องกันนายหน้าเรียกค่าหัวคิว เตรียมประชุมหารือการพิสูจน์สัญชาติแรงงานและการปรับปรุงระบบการนำเข้าแรงงานตาม MOU ปลายธันวาคมนี้

นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการหารือร่วมกับอธิบดีกรมแรงงานและฝึกอาชีพ กระทรวงแรงงาน แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่า ฝ่ายไทยแจ้งว่ากลุ่มที่ผ่านการคัดกรองความสัมพันธ์นายจ้าง – ลูกจ้าง และได้รับหนังสือรับรองจากกระทรวงแรงงาน (ใบจับคู่) ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 210,187 คน และเตรียมขยายเวลาการพิสูจน์สัญชาติถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 โดยจะมีการจัดหน่วยเคลื่อนที่ (Mobile Teams) ไปยังจังหวัดที่มีแรงงานกัมพูชาจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแรงงานกัมพูชาและนายจ้าง โดยขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งศักยภาพในการพิสูจน์สัญชาติให้กับแรงงานกัมพูชาว่าสามารถดำเนินการได้เท่าใด หรือมีแผนในการพิสูจน์สัญชาติแบบอื่นหรือไม่ ทั้งนี้ หากพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพและสนองต่อความต้องการได้สะดวก รวดเร็วและประหยัด ปัญหาต่างๆ ก็จะหมดสิ้นไป ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องมีการเชื่อมโยงและทำงานใกล้ชิดกัน

ด้านนายเส็ง ศักดา อธิบดีกรมแรงงานและฝึกอาชีพ กระทรวงแรงงาน แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาแจ้งว่า หน่วยเคลื่อนที่ ในการส่งมอบหนังสือเดินทาง เอกสารเดินทาง และบัตรแรงงานกัมพูชาในต่างแดน ให้กับแรงงานกัมพูชา ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ได้ส่งมอบไปแล้วจำนวน 110,534 คน โดยเปิดดำเนินการ 4 ศูนย์ ในจังหวัดปทุมธานี ระยอง ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร ขณะนี้ศูนย์จังหวัดปทุมธานีได้ปิดให้บริการแล้ว สำหรับศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานกัมพูชาให้กับแรงงานกลุ่มบัตรสีชมพูและแรงงานใบจับคู่ 3 ศูนย์ ในจังหวัดระยอง สงขลา และกรุงเทพมหานคร นั้นได้ดำเนินการพิสูจน์สัญชาติไปแล้ว จำนวน 37,702 คน โดยปัญหาที่พบคือการตั้งสำนักงานนายหน้า และมีการเรียกค่าดำเนินการ 1,500 บาท ต่อคน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและฝึกอาชีพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้มีการกำชับไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการพิสูจน์สัญชาติเกินจากที่ประกาศไว้ 

ทั้งนี้ ช่วงปลายเดือนธันวาคมจะมีการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและฝึกอาชีพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แห่งราชอาณาจักรไทยในประเด็นการพิสูจน์สัญชาติแรงงานกัมพูชา และการปรับปรุงระบบการนำเข้าแรงงานตาม MOU