ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.พรรคก้าวไกล เรียกร้อง รมว.ทส.ทบทวนกรณีกองทัพเรือยื่นขอใช้พื้นที่ป่า เพื่อจัดตั้งโครงการป้องกันภัยทางอากาศในพื้นที่อีอีซี ซัด 'ทหาร' ไม่ต่างกับการซื้ออาวุธด้วยภาษีประชาชน

จากกรณี พล.ร.ท.อนุชาติ อินทรเสน เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารเรือ ได้ทำหนังสือถึงนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เรื่องการขอใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณพื้นที่เขาโกรกตะแบกและเขาเนินกระปรอก ในพื้นที่อ.เมืองระยอง และ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

เพื่อจัดทำโครงการป้องกันภัยทางอากาศในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และเป็นที่ต้องหน่วยป้องกันภายทางอากาศของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ทั้งในบริเวณพื้นที่เขาโกรกตะแบกเนื้องที่ประมาณ 2,000 ไร่ และบริเวณเขาเนินกระปรอก เนื้อที่ประมาณ 2,600 ไร่ รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 4,600 ไร่

ล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงจุดยืนคัดค้านแนวคิดดังกล่าว พร้อมเรียกร้องนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ผ่านเฟซบุ๊กว่า ตอนเริ่มปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า ทหารเป็นตัวตั้งตัวตีในการเข้าไปรื้อถอนบ้าน ถากถางไร่ส่วนของชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่รัฐขีดเส้นว่าเป็นป่ากันขนานใหญ่ ถือหลักสุดขั้วว่าป่าจะต้องปลอดมนุษย์โดยสิ้นเชิง แทนที่จะหาวิธีให้คนกับป่ายังอยู่ร่วมกันได้

อย่างไรก็ตามพอทหารมีแผนจะใช้พื้นที่ป่าเสียเอง กลับไม่คิดถึงความเสียหายที่จะเกิดกับป่าหรือพิจารณาไปหาพื้นที่อื่นแทนบ้าง โดยโครงการอีอีซี ก็มีข้อกังขาเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่อยู่แล้ว แต่กองทัพยังเข้ามาผสมโรงผลักดันโครงการของตัวเองโดยอ้างอีอีซีอีก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชาวบ้านเพิ่มขึ้นไปด้วย กรณีนี้ไม่ต่างอะไรกับการซื้ออาวุธด้วยภาษีประชาชน เพราะสิ่งที่ต้องเสียไปเพื่อสนองความต้องการของกองทัพก็คือพื้นที่ป่า ซึ่งกรมป่าไม้ระบุว่าเป็น "สวนป่า" ไม่ใช่ป่าเสื่อมโทรม ที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม

"ผมขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทบทวนให้ดีในการที่จะให้กองทัพเรือใช้ประโยชน์พื้นที่ และในอนาคตควรต้องปฏิรูปกระบวนการในการขอใช้พื้นที่ ให้รัฐมนตรีต้องเป็นผู้ตัดสินใจด้วย ไม่ใช่ให้กองทัพทำเรื่องขอได้เอง" รังสิมันต์ โรม ระบุ