เมื่อวันพุธ (8 พ.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร คว่ำบาตรโลหะอุตสาหกรรม 4 ชนิด คือ เหล็ก เหล็กกล้า อะลูมิเนียม และทองแดง ซึ่งเป็นแหล่งรายได้จากการส่งออกที่มีมูลค่าสูงที่สุดของอิหร่านนอกเหนือจากน้ำมันซึ่งถูกคว่ำบาตรไปแล้วก่อนหน้านี้ โลหะทั้ง 4 ชนิดดังกล่าวสร้างรายได้ราว 10 เปอร์เซนต์ของรายได้จากสินค้าส่งออกของอิหร่าน
ทรัมป์ ออกคำสั่งดังกล่าวหลังจากอิหร่านประกาศระงับการปฏิบัติตามพันธะบางส่วนในข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านยังคงมีพันธะกับอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน เยอรมนี และรัสเซีย ในขณะที่สหรัฐฯได้ถอนตัวจากข้อตกลงฉบับนี้ไปแล้วเมื่อ 1 ปีก่อน อิหร่านให้เหตุผลในการยุติพันธะว่า เป็นเพราะประเทศภาคีต่างคว่ำบาตรน้ำมันของอิหร่านตามแรงกดดันจากสหรัฐฯ
ในคำสั่งคว่ำบาตรแร่โลหะของอิหร่าน ทรัมป์ขู่ว่า ประเทศไหนสั่งซื้อโลหะ 4 ชนิดดังกล่าว ประเทศนั้นหรือบริษัทเอกชนของประเทศนั้นจะไม่สามารถทำธุรกรรมกับธนาคารของสหรัฐฯได้
ผู้นำสหรัฐฯบอกว่า พร้อมเจรจากับผู้นำของอิหร่านเพื่อจัดทำข้อตกลงฉบับใหม่ แต่นักสังเกตการณ์มองว่า มีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่ผู้นำเตหะรานจะตกลงขึ้นโต๊ะเจรจากับทรัมป์ ซึ่งเคยพูดจาข่มขู่อิหร่านหลายครั้ง.
ข่าวเกี่ยวเนื่อง: