มิไคโล โปโดลยัก หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจา และที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครนเปิดเผยว่า ทางการรัสเซียได้พิจารณาข้อเสนอจากทางยูเครน ที่ถูกเสนอในการพูดคุยระหว่างยูเครนกับรัสเซียในกรุงอิสตันบูลของตุรกี ซึ่งโปโดลยักเชื่อว่าอาจนำไปสู่การการประชุมสุดยอดเรื่องสันติภาพของประธานาธิบดีจากทั้งสองชาติ
“เราคาดหวังการจัดการหารือที่จะเกิดขึ้นระหว่างประธานาธิบดีในเร็วๆนี้” หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของยูเครนเผย “เมื่อไหร่นั้นยังคงเร็วไปที่จะระบุ แต่ว่ามันเป็นประเด็นที่เป็นเหตุเป็นผล” ในทางตรงกันข้าม ดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า ทางการรัสเซียเห็น “แนวโน้มบวก” ถึงท่าทีที่ยูเครนเสนอมา แต่กลับไม่พูดรับประกันถึงความคาดหวังจากทางฝั่งยูเครนแต่อย่างใด
“เราไม่สามารถระบุถึงอะไรที่เป็นการรับปากหรือความก้าวหน้าใดๆ จนเกินไป” เปสคอฟกล่าว “มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องทำ” ในขณะที่ตัวแทนการเจรจาของรัสเซียอย่าง วลาดิเมียร์ เมดินสกี ได้มอบความหวังในการเจรจา หลังจากเมดินสกีระบุว่าข้อเสนอของทางยูเครนอาจแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการบรรลุข้อตกลงบางอย่าง
ในขณะที่ผู้นำกลุ่มเชเชนของสหพันธรัฐรัสเซียอย่าง แรมซาน คาดิรอฟ ออกมาวิจารณ์ว่า คำพูดของเมดินสกีเป็นคำพูดที่ผิดพลาด “ถ้าคุณคิดว่าเขา (ปูติน) จะถอนตัวออกมาจากสิ่งที่เขาได้เริ่มซึ่งเขาได้เสนอเรามาจนถึงวันนี้ นั่นไม่ใช้ความเป็นจริง”
ข้อเสนอและข้อโต้แย้งจากทั้งสองฝ่ายในการเจรจายังคงสร้างความสับสน ในขณะที่สงครามที่เกิดขึ้นในยูเครนยังคงเดินหน้าต่อไป โดยสหประชาชาติเปิดเผยว่า ยูเครนมีผู้อพยพออกนอกประเทศแล้วกว่า 4 ล้านราย โดยกว่า 90% เป็นผู้หญิงและเด็ก
ในการเจรจาที่อิสตันบูล ยูเครนเสนอสถานะความเป็นกลางของตนเอง หากมีประเทศที่สามเข้ามารับประกันความปลอดภัยให้แก่ยูเครนได้ ในลักษณะเดียวกันกับมาตรา 5 ของกฎบัตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่กำหนดว่า ชาติสมาชิกมีพันธะในการปกป้องพันธมิตรของตนเองจากการรุกรานของศัตรู
เมดินสกีกล่าวรับทราบถึงประเด็นข้อเสนของยูเครนว่ายูเครนจะยึดสถานะประเทศปลอดนิวเคลียร์ และละทิ้งความปราถนาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนเอง เพื่อที่ยูเครนจะไม่เข้าร่วม NATO ทั้งนี้ รัสเซียระบุว่าตนพร้อมจะลดระดับปฏิบัติการทางตอนเหนือของยูเครนและรอบกรุงเคียฟในการเจรจาครั้งเดียวกัน แต่กลับมีรานงานว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าการยิงถล่มเมืองเชอร์นีฮีฟของยูเครนต่อไป
ที่มา: